หนึ่งวันหลังจากที่ มาร์ค มาร์เกซ ผงาดคว้าแชมป์โลกโมโตจีพีสมัยที่ 7 (สมัยที่ 9 ในทุกรุ่น) ได้สำเร็จที่ประเทศญี่ปุ่น อเล็กซ์ มาร์เกซ น้องชายและอดีตคู่ท้าชิงบัลลังก์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจอย่างลึกซึ้งอีกครั้งถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า “ความกดดัน” ในการเป็นผู้ท้าชิงเพียงหนึ่งเดียวได้ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการขับขี่ของเขาอย่างแท้จริง
แม้จะสามารถ “กอบกู้” สุดสัปดาห์ที่ย่ำแย่ด้วยการจบอันดับ 6 ในการแข่งขันจริงได้ แต่ อเล็กซ์ มาร์เกซ ก็ยอมรับว่าภารกิจในการหยุดยั้งพี่ชายนั้นเป็นภาระที่หนักอึ้งเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด
ยอมรับครั้งแรก: “ความกดดันมันส่งผลกับผม”
“มันไม่ใช่ข้อแก้ตัว แต่การมาถึงที่นี่ในฐานะคนเดียวที่สามารถขัดขวางไม่ให้มาร์คคว้าแชมป์โลกได้ มันส่งผลกระทบกับเราเล็กน้อย” อเล็กซ์กล่าว “ผมอยากจะยืดการลุ้นแชมป์ออกไปให้ถึงอินโดนีเซีย แต่สุดท้ายแล้วมันก็ส่งผลกับผม ผมขับขี่ได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น ผมเสียจังหวะและรู้สึกเกร็งไปหมดตลอดสุดสัปดาห์”
“ความรู้สึกว่างเปล่าในท้อง” และวินาทีที่พี่ชายเป็นแชมป์โลก
อเล็กซ์ได้บรรยายถึงความรู้สึกในวินาทีที่การลุ้นแชมป์สิ้นสุดลงอย่างเห็นภาพ “ตอนที่มาร์คข้ามเส้นชัยและผมรู้ว่าเขาชนะแล้ว ผมรู้สึกเหมือนมีบางอย่างว่างเปล่าในท้อง มันเหมือนกับ ‘พอแล้ว จบแล้ว'”
“ตำแหน่งแชมป์นี้แตกต่างออกไป เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผมได้อยู่ในสนามแข่งกับเขาในฐานะคู่แข่ง ตอนที่เขาเข้าเส้นชัย ผมคือน้องชายที่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะถ้าจะมีใครสักคนที่สมควรได้รับมัน คนนั้นก็คือเขา”
“เขาคือคนที่ก้าวข้ามทุกสิ่งทุกอย่างมาได้ แม้แต่คนที่อยู่เคียงข้างเขาอย่างเรา ก็ยังไม่รู้แน่ชัดเลยว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้างจริงๆ เราอาจจะมีส่วนร่วมในหลายๆ เรื่องเพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เขาคือคนที่สมควรได้รับมันที่สุด เขาทำงานอย่างหนัก”
ภารกิจใหม่และการมองไปข้างหน้า
นักบิดจากทีม Gresini ยังคงยืนยันในความเชื่อมั่นที่เขามีต่อพี่ชายมาโดยตลอด “ผมชัดเจนมาตลอดตอนที่ผู้คนสงสัยในตัวเขา ผมรู้ว่าเขายังไม่จบสิ้น แค่ต้องการเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อกลับมาต่อสู้ แผนการของเขาได้ผลและถูกนำมาใช้อย่างสมบูรณ์แบบ”
บัดนี้ เมื่อการต่อสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์โลกได้จบลงแล้ว อเล็กซ์ มาร์เกซ ก็พร้อมที่จะเดินหน้าสู่ภารกิจใหม่ของเขา นั่นคือการป้องกันตำแหน่งรองแชมป์โลก และกลับมาเริ่มต้นด้วย “ความเข้มข้นที่มากขึ้น” ในสนามถัดไปที่ประเทศอินโดนีเซีย