7msport

เลวานดอฟสกี้ เปิดใจ: เผยบทสนทนาเปลี่ยนชีวิตกับคล็อปป์, เบื้องหลังดีลล่มแมนยู และปมบัลลงดอร์

ในวัย 37 ปี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยังคงยืนหยัดเป็นหนึ่งในสุดยอดกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกอย่างสง่างาม ดาวยิงชาวโปแลนด์ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ เปิดเผยเรื่องราวเบื้องลึกในเส้นทางอาชีพค้าแข้งอันยาวนานของเขา ตั้งแต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่พลิกชีวิตไปตลอดกาล ไปจนถึงดีลในฝันที่เกือบเกิดขึ้น และมุมมองต่อรางวัลที่เขาไม่เคยได้สัมผัส

“บทสนทนาชั่วโมงครึ่งกับคล็อปป์ที่เปลี่ยนทุกอย่าง”

หนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในอาชีพของเลวานดอฟสกี้ เกิดขึ้นสมัยที่เขายังเป็นดาวรุ่งที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เขายอมรับว่าในช่วงแรกนั้น เขารู้สึกเหมือน “ถูกบล็อก” ไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ในวันแข่งขัน แม้จะทำได้ดีในการซ้อมก็ตาม

“ผมรู้สึกติดขัด หลังจากบทสนทนานั้น ซึ่งกินเวลาราวๆ ชั่วโมงครึ่ง ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างที่อยู่ข้างใน… ผมได้ปลดปล่อยมันออกมา ความรู้สึกแย่ๆ ที่ผมมีมันหายไป” เลวานดอฟสกี้เล่า “ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่หลังจากบทสนทนานั้น ผมก็เปิดใจ และผมก็เริ่มยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ”

เกือบเป็นศิษย์เฟอร์กี้: “ผมไม่เข้าใจสำเนียงของเขาเลย!”

อีกหนึ่งเรื่องราว “what if” ที่น่าสนใจคือการที่เขาเกือบจะได้ย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2012 หลังได้รับการติดต่อโดยตรงจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

“ผมจำได้ว่ามันเป็นช่วงพักครึ่งของเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นกับดอร์ทมุนด์” เขากล่าว “ผมโทรกลับไปหาเฟอร์กูสัน และเมื่อเขาเริ่มคุยกับผม ผมสับสนกับสำเนียงของเขามาก ผมต้องตั้งใจฟังอย่างหนักเพื่อที่จะเข้าใจ ผมได้แต่พูดว่า ‘ครับ แน่นอนครับ’ แกล้งทำเป็นว่าเข้าใจทุกอย่าง แต่จริงๆ แล้วผมไม่เข้าใจอะไรเลย ผมตอบตกลงไปและมันก็เกือบจะเกิดขึ้นแล้ว แต่ประธานสโมสรดอร์ทมุนด์บอกว่าพวกเขาขายผมไม่ได้ มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม”

บัลลงดอร์ที่หายไป และการยืนหยัดในยุคเมสซี่-โรนัลโด้

แม้จะประสบความสำเร็จมากมาย แต่รางวัลบัลลงดอร์คือสิ่งที่เลวานดอฟสกี้ยังไม่เคยได้สัมผัส โดยเฉพาะในปี 2020 ที่เขาระเบิดฟอร์มยิงไป 55 ประตูใน 47 นัด พา บาเยิร์น มิวนิค คว้าเทรเบิลแชมป์ แต่รางวัลกลับถูกยกเลิกไปเนื่องจากการระบาดของโควิด-19

“ผมชนะทุกอย่างในชีวิตค้าแข้ง ยกเว้นบัลลงดอร์” เขากล่าวอย่างยอมรับ “ผมเชื่อว่าผมน่าจะชนะมันได้ แต่ผมเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นนักฟุตบอลหรือผู้ชายที่แตกต่างไปถ้าผมได้รับถ้วยรางวัลนั้น มีเรื่องราวมากมายรอบๆ วงการฟุตบอล บางครั้งก็เป็นการเมือง ผมเข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร แต่ผมไม่ได้ฝันถึงมัน มันไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผมนอนไม่หลับ”

นอกจากนี้ เขายังมองว่าการที่เส้นทางอาชีพของเขาเกิดขึ้นพร้อมกับยุคสมัยของ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือสิ่งที่ผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น “ชีวิตค้าแข้งของผมที่อยู่ร่วมกับพวกเขาหมายความว่าผมประสบความสำเร็จมากขึ้น”

มุมมองต่อเด็กรุ่นใหม่ และเคล็ดลับการยืนระยะ

ในฐานะผู้เล่นซีเนียร์ในทีมบาร์เซโลน่า เลวานดอฟสกี้ยังได้แชร์มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับนักเตะรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ ลามีน ยามาล ที่เขามองว่าเป็นพรสวรรค์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในนักเตะวัยเดียวกัน แต่เขาก็เตือนว่าความท้าทายที่แท้จริงคือการรักษาระดับความกระหายต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า ท่ามกลางความคาดหวังและแรงกดดันจากโซเชียลมีเดีย

สำหรับเคล็ดลับการยืนระยะในวัย 37 ปีของเขา เลวานดอฟสกี้เผยว่าเขาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ตั้งแต่อายุ 21 ปี โดยเน้นเรื่องอาหารและการดูแลสภาพร่างกายอย่างเข้มงวด “ร่างกายผมยังคงแข็งแกร่งมาก ถ้าคุณดูข้อมูลการซ้อมของผม สภาพร่างกายของผมยังอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อก่อน หลายคนทำพลาดที่คิดว่าในวัย 37 ผมจะโรยรา แต่ผมยังรู้ว่าผมสามารถอยู่บนจุดสูงสุดได้ ตรงกันข้ามเลย พวกเขาต่างหากที่ต้องไล่ตามผม”