รอยยิ้มของ อเล็กซ์ มาร์เกซ ในบาเลนเซีย ไม่ใช่แค่รอยยิ้มของผู้ชนะสปรินต์เรซ หรือความภูมิใจในฐานะ “รองแชมป์โลกปี 2025” แต่มันคือรอยยิ้มของชายที่รู้คุณค่าในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม
นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของนักบิดเจ้าของแชมป์โลก 2 สมัย (Moto3 และ Moto2) หลังจากผ่านปี 2025 อันยอดเยี่ยม ดูคาติ (Ducati) ได้มอบหมายภารกิจระดับ “โรงงาน” ให้กับเขา แม้จะอยู่ภายใต้สีเสื้อเกรซินี นั่นคือการเป็นหัวหอกในการพัฒนารถแข่งรุ่นใหม่สำหรับปี 2026 เพื่อต่อกรกับภัยคุกคามที่น่ากลัวอย่าง อพริเลีย (Aprilia) และเพื่อท้าชิงกับพี่ชายของเขาเอง มาร์ค มาร์เกซ ที่ยังคงเป็นเต็งหนึ่ง
ทำไมต้องเป็น อเล็กซ์? มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกคนปัจจุบัน ให้คำตอบเรื่องนี้ไว้ชัดเจนที่สุด: “เราต้องการ เปคโก้ (บันยาญ่า) และ อเล็กซ์ เพราะพวกเขาคือคนที่จะนำทางเราไปสู่ปี 2026 กฎกติกาใหม่ทำให้ช่องว่างระหว่างทีมแคบลง ดังนั้นเราต้องทำงานหนักและแม่นยำที่สุด”
ในสนามทดสอบที่บาเลนเซีย อเล็กซ์เริ่มงานทันทีด้วยการทดสอบชิ้นส่วนแอโรไดนามิกใหม่ ท่ามกลางการจับตามองของวิศวกรดูคาติ แม้เวลาของเขาจะตามหลัง ราอูล เฟอร์นันเดซ และ มาร์โก เบซเซคกี้ (ที่ย้ายไปขี่อพริเลีย) เพียงเสี้ยววินาที แต่สิ่งที่อเล็กซ์โฟกัสไม่ใช่เวลาต่อรอบ แต่คือ “ทิศทาง”
“คิดก่อนพูด” คือหัวใจสำคัญ อเล็กซ์ตระหนักดีถึงน้ำหนักบนบ่าของเขา “ผมชอบนะที่ความเห็นของผมมีความสำคัญ แต่มันมาพร้อมความรับผิดชอบที่จะต้องไม่พลาด เราจะลองชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ เพื่อดูทิศทาง ถ้าไม่แน่ใจ เราจะทดสอบซ้ำ เราทำผิดพลาดไม่ได้ ต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะพูดฟีดแบ็คออกไป”
การพัฒนาเครื่องจักรสังหารความเร็วสูงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในข้ามคืน อเล็กซ์ทิ้งท้ายด้วยปรัชญาที่แสดงถึงวุฒิภาวะว่า “ความตื่นตระหนกไม่ช่วยพาเราไปไหน เราต้องใจเย็น… และถ้ามีใครสักคนที่กระหายจะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คนนั้นคือ ดูคาติ”
ปี 2026 จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญว่า “อเล็กซ์ มาร์เกซ” จะเปลี่ยนจากผู้ตาม มาเป็นผู้นำในการกำหนดทิศทางแชมป์โลกได้ดีแค่ไหน