เฟร์มิน อัลเดเกร์ นักบิดดาวรุ่งชาวสเปนวัย 20 ปี จากทีม BK8 Gresini Racing ยอมรับว่ารู้สึก “ยากที่จะยอมรับ” หลังจากการตัดสินใจล่าสุดของ Ducati ที่จะยังไม่มอบรถสเปคโรงงาน (Factory Bike) ให้เขาในปี 2026 ตามที่เคยตกลงกันไว้ในสัญญา แต่ถึงกระนั้น เขาก็แสดงความเข้าใจต่อการตัดสินใจของค่ายสีแดง
เดิมที อัลเดเกร์ ได้เซ็นสัญญาสองปีกับ Ducati เมื่อปี 2024 ซึ่งระบุชัดเจนว่า เขาจะได้เดบิวต์ในรุ่น MotoGP ปี 2025 กับทีม Gresini ด้วยรถสเปคเก่าหนึ่งปี (GP24) และจะได้รับการอัปเกรดเป็นรถสเปคโรงงานเต็มตัวในปี 2026
อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลง โดย Ducati ตัดสินใจมอบสิทธิ์รถ GP26 (สเปคโรงงานปี 2026) ให้กับ อเล็กซ์ มาร์เกซ แทน ส่งผลให้ อัลเดเกร์ จะต้องใช้รถ GP25 ในฤดูกาลหน้า ซึ่งเป็นรถสเปคที่ มาร์ค มาร์เกซ เพิ่งใช้คว้าแชมป์โลกสมัยล่าสุดที่ญี่ปุ่น
“มันยากที่จะยอมรับครับ เพราะในตอนนี้เรากำลังแข่งขันได้ดีและรวดเร็วมาก” อัลเดเกร์ กล่าวกับ Motorsport.com “แน่นอนว่าผมยังต้องการอะไรจากรถอีกเล็กน้อย เพราะรถโรงงานย่อมดีกว่าเสมอ”
แม้จะผิดหวัง แต่ดาวรุ่งเจ้าของแชมป์ MotoGP สนามแรกที่อินโดนีเซีย ก็แสดงวุฒิภาวะที่น่าทึ่ง “ความจริงก็คือ มันเพิ่งจะเป็นปีที่สองของผม (ใน MotoGP) และผมคิดว่า GP25 ก็จะเป็นรถที่ดีมากๆ อยู่แล้ว ผมได้รับการสนับสนุนจาก Ducati ดังนั้นผมจึงโอเคที่จะยังไม่ได้รถโรงงาน เราจะสู้เพื่อมันในอนาคต”
“บางทีนี่อาจจะยังไม่ถึงเวลาของผมที่จะได้ขี่รถคันนั้น แต่เราจะได้เห็นกัน ถ้าเรามีฤดูกาลที่ดีในปีหน้า บางทีในปี 2027 เราอาจจะได้ไปอยู่กับทีมสีแดง (ทีมโรงงาน Ducati) ก็ได้”
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นแม้ว่า อัลเดเกร์ จะทำผลงานได้น่าประทับใจในฤดูกาลเดบิวต์ (2025) โดยนอกจากชัยชนะครั้งแรก เขายังขึ้นโพเดียมที่ฝรั่งเศสและออสเตรีย รายงานระบุว่า Ducati พึงพอใจอย่างมากกับพัฒนาการของเขา โดยเฉพาะการบริหารจัดการยางและความเร็วคงที่ในช่วงท้ายเรซ
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนที่ยังต้องปรับปรุงคือ “การควอลิฟาย” ซึ่งตลอดฤดูกาลนี้ เขาได้ออกสตาร์ทจากสองแถวหน้าเพียง 5 ครั้งเท่านั้น
สำหรับเป้าหมายในปี 2026 อัลเดเกร์ เลือกที่จะไม่กดดันตัวเอง “ผมแค่อยากจะสนุกกับมัน ทำความเร็วให้ได้ และสู้ในกลุ่มหน้า เป้าหมายของผมคือการรักษาอันดับในท็อป 5, ขึ้นโพเดียมให้มากขึ้น และพยายามต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่เราต้องเริ่มต้นอย่างใจเย็น ด้วยทัศนคติที่ถูกต้อง และมองไปทีละขั้นครับ”