7msport

เปิดตำราเซียน! เบื้องหลังกลยุทธ์ขายนักเตะสุดฉลาดของลิเวอร์พูล โกยกำไรมหาศาล

ในยุคที่กฎการเงิน (Profit and Sustainability Rules) เข้ามามีบทบาทสำคัญ ความสำเร็จในตลาดซื้อขายนักเตะไม่ได้วัดกันที่การทุ่มเงินซื้อดาวดังเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังรวมถึงศิลปะในการ “ขาย” ผู้เล่นให้ได้ราคาดีที่สุด ซึ่งในแง่นี้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาคือหนึ่งในสโมสรที่ทำได้ดีที่สุดในวงการฟุตบอลยุโรป

ซัมเมอร์ล่าสุดที่ผ่านมา ลิเวอร์พูลสร้างความฮือฮาด้วยการใช้จ่ายเงินเสริมทัพไปกว่า 419 ล้านปอนด์ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็สามารถทำรายได้จากการขายนักเตะกลับคืนมาได้ถึง 194 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งและเป็นรองเพียงแค่ เชลซี และ บอร์นมัธ เท่านั้น ความสำเร็จนี้สวนทางกับคู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ อาร์เซน่อล ที่ประสบปัญหาในการระบายผู้เล่นส่วนเกินออกจากทีมอย่างเห็นได้ชัด

กุญแจสำคัญ: การกลับมาของ “ยอดคน” และทีมงานคุณภาพ

เบื้องหลังความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกลับมาของ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ในตำแหน่ง CEO ด้านฟุตบอลของ Fenway Sports Group (FSG) และการแต่งตั้ง ริชาร์ด ฮิวจ์ส เป็นผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ทั้งคู่มีประวัติที่ยอดเยี่ยมในการเจรจาต่อรองและสร้างมูลค่าให้กับผู้เล่น เอ็ดเวิร์ดส์เคยสร้างชื่อจากการขาย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ในราคามหาศาล 142 ล้านปอนด์ รวมถึงดีลกำไรงามของนักเตะอย่าง จอร์ดอน ไอบ์, แบรด สมิธ และ ริอาน บรูว์สเตอร์ ขณะที่ฮิวจ์สก็มีผลงานชิ้นโบแดงในการปั้นแล้วขายนักเตะที่บอร์นมัธ

กลยุทธ์ที่ไม่ธรรมดา: ปล่อยยืมเพื่อเพิ่มมูลค่า และความหนักแน่นในการเจรจา

ลิเวอร์พูลใช้ระบบการปล่อยยืมตัวอย่างมีกลยุทธ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับนักเตะดาวรุ่ง พวกเขาจะวิเคราะห์อย่างละเอียดถึงสไตล์การเล่นของทีมที่จะยืม, โอกาสในการลงสนาม และสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อให้นักเตะได้พัฒนาฝีเท้าอย่างเต็มที่ กรณีของ เบน โด๊ค ที่ถูกซื้อมาในราคาเพียง 600,000 ปอนด์ ก่อนจะถูกปล่อยให้ มิดเดิลสโบรช์ ยืมตัวจนโชว์ฟอร์มเก่ง และถูกขายให้ บอร์นมัธ ในราคาที่อาจสูงถึง 25 ล้านปอนด์ คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด

นอกจากนี้ ความหนักแน่นในการเจรจาของฮิวจ์สยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ พวกเขาพร้อมที่จะเก็บผู้เล่นไว้ใช้งานหากไม่ได้รับข้อเสนอที่น่าพอใจ ซึ่งกลยุทธ์นี้มักจะทำให้สโมสรที่สนใจต้องยอมจ่ายในราคาที่ลิเวอร์พูลตั้งไว้ในที่สุด

การตัดสินใจที่เด็ดขาด: ธุรกิจต้องมาก่อน

แม้แต่กับผู้เล่นคนสำคัญ ทีมบริหารของลิเวอร์พูลก็แสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดในการตัดสินใจโดยยึดผลประโยชน์ของสโมสรเป็นหลัก การขาย หลุยส์ ดิอาซ ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ในราคา 65.6 ล้านปอนด์ แม้จะเป็นผู้เล่นที่ อาร์เน่ สล็อต ชื่นชอบ แต่เมื่อทีมวิเคราะห์ข้อมูลมองว่านี่คือข้อเสนอที่ดีเกินกว่าจะปฏิเสธสำหรับผู้เล่นวัย 28 ปี และทีมก็ได้ตัวแทนอย่าง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ และ ฮูโก้ เอกิติเก้ เข้ามาแล้ว ดีลนี้จึงเกิดขึ้น

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงโมเดลการบริหารที่ยั่งยืนของ FSG ซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นแค่ความสำเร็จในสนาม แต่ยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการเงิน ทำให้ลิเวอร์พูลสามารถยืนหยัดต่อสู้กับสโมสรยักษ์ใหญ่ทีมอื่นๆ ได้อย่างแข็งแกร่งทั้งในและนอกสนาม