7msport

เปิดกรุสมบัติ! ทีมในฝัน “เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน” ที่โลกลืม: เมื่อตำนานเลือก 11 ตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ในวาระครบรอบวันเกิดปีที่ 88 ของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน หนึ่งในบุคคลผู้ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ เราได้ค้นพบสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในหนังสือเก่าแก่ของเขาที่ชื่อว่า “Bobby Charlton’s Book of Soccer” ซึ่งตีพิมพ์ในเดือนตุลาคม ปี 1960

ในขณะที่เขาอายุเพียง 23 ปี ชายผู้ผ่านโศกนาฏกรรมมิวนิคมาอย่างเจ็บปวดได้จรดปากกาเลือก “ทีมแห่งโลก” (World XI) ในมุมมองของเขา นี่ไม่ใช่แค่รายชื่อนักเตะ 11 คน แต่มันคือหน้าต่างที่เปิดให้เรามองย้อนกลับไปยังยุคสมัยแห่งฟุตบอลที่แตกต่าง และที่สำคัญที่สุด คือการได้สัมผัสกับวิธีคิดของตำนานผู้ยิ่งใหญ่

เซอร์ บ็อบบี้ ตั้งกฎเกณฑ์ที่น่าสนใจไว้หนึ่งข้อ: เขาจะไม่เลือกผู้เล่นจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาลำเอียง ซึ่งนั่นหมายความว่าชื่อของสุดยอดนักเตะอย่าง ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ ต้องถูกตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย

และนี่คือ 11 ผู้เล่นที่เขาเลือก ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าทึ่ง

ผู้รักษาประตู: เบิร์ต เทราท์มันน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) การเลือกที่ช็อกที่สุดและแสดงถึงหัวใจอันยิ่งใหญ่ของชาร์ลตัน เขาเลือกผู้รักษาประตูจากทีมคู่ปรับร่วมเมือง แต่เบื้องหลังนั้นลึกซึ้งกว่านั้น เทราท์มันน์คืออดีตทหารพลร่มของนาซีเยอรมันที่ถูกจับเป็นเชลยสงครามในอังกฤษ เขาต้องเผชิญกับการประท้วงอย่างหนักจากแฟนบอล แต่ด้วยฝีมืออันเอกอุและความกล้าหาญ (โดยเฉพาะวีรกรรมลงเล่นต่อทั้งที่คอหักในนัดชิงเอฟเอ คัพ 1956) เขาก็สามารถชนะใจทุกคนได้ ชาร์ลตันเขียนว่า “เมื่อเรามีวันหยุด เรามักจะข้ามไปที่เมน โร้ด เพื่อดูดาวดังชาวเยอรมันคนนี้ลงเล่น”

แผงหลัง: แจลม่า ซานโตส (บราซิล), จอห์น ชาร์ลส์ (เวลส์), นิลตัน ซานโตส (บราซิล) ชาร์ลตันเลือกใช้ฟูลแบ็กระดับแชมป์โลกชาวบราซิลทั้งสองข้างอย่าง แจลม่า และ นิลตัน ซานโตส ซึ่งเขาได้เผชิญหน้ามาโดยตรงและยอมรับในฝีเท้าที่ครบเครื่อง แต่ตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกลับสร้างความประหลาดใจ เมื่อเขาเลือก จอห์น ชาร์ลส์ “ยักษ์ใจดี” ตำนานดาวยิงของยูเวนตุส มายืนเป็นปราการหลังตัวกลาง ชาร์ลตันให้เหตุผลว่า “คุณสามารถจับ จอห์น ชาร์ลส์ ไปเล่นตรงไหนก็ได้ แต่ผมไม่รู้จักเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนไหนที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว”

แผงมิดฟิลด์: เดฟ แม็คคาย (สกอตแลนด์), โยเซฟ บอซซิค (ฮังการี), ดราโกสลาฟ เซกูลารัค (ยูโกสลาเวีย) นี่คือส่วนผสมที่ลงตัวของความดุดันและศิลปะ เดฟ แม็คคาย คือมิดฟิลด์จอมแกร่งจากสเปอร์สที่ชาร์ลตันยอมรับว่า “ไม่เคยปล่อยให้เขาอยู่อย่างสงบ” ขณะที่ โยเซฟ บอซซิค คือ “ช่างฝีมือ” จากทีมชาติฮังการีชุด “Magical Magyars” ในตำนาน ซึ่งเป็นคนเดียวในทีมชุดนี้ที่ชาร์ลตันไม่เคยลงเล่นด้วย แต่ความประทับใจจากเกมที่ฮังการีถล่มอังกฤษ 6-3 ก็เพียงพอแล้ว ส่วน ดราโกสลาฟ เซกูลารัค คือเพลย์เมกเกอร์อัจฉริยะจากเรดสตาร์ เบลเกรด ซึ่งเป็นทีมสุดท้ายที่ยูไนเต็ดลงแข่งด้วยก่อนเกิดโศกนาฏกรรมมิวนิค ชาร์ลตันประทับใจในฝีเท้าของเขามากจนยกย่องว่า “สมบูรณ์แบบ”

แนวรุก: ชูลิญโญ่ (บราซิล), อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ (อาร์เจนตินา/สเปน), เรย์มงด์ โกปา (ฝรั่งเศส), ปาโก้ เกนโต้ (สเปน) ในยุคที่ยังไม่มีชื่อของเปเล่โด่งดังเป็นพลุแตก ชาร์ลตันเลือก ชูลิญโญ่ ปีกขวาชาวบราซิลที่เขาถึงกับอุทานว่า “ดีกว่า สแตนลี่ย์ แมทธิวส์” ส่วนปีกซ้ายคือ ปาโก้ เกนโต้ จรวดทางเรียบจากเรอัล มาดริด ผู้คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 6 สมัย โดยมี เรย์มงด์ โกปา ยอดนายพลชาวฝรั่งเศสคอยบัญชาเกมอยู่เบื้องหลัง

และสำหรับศูนย์กลางของจักรวาลแห่งนี้ ชาร์ลตันมอบตำแหน่งนั้นให้กับ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ พร้อมคำอธิบายสั้นๆ ที่ทรงพลังที่สุด: “ดิ สเตฟาโน่ คือผู้ที่ไร้คู่เปรียบเทียบ เขาคือนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ผมเคยเห็นมาในชีวิต”

นี่ไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอล แต่เป็นแคปซูลกาลเวลาที่พาเราย้อนกลับไปสัมผัสจิตวิญญาณของเกมในยุคคลาสสิก ผ่านสายตาของชายผู้เป็นตำนานอย่างแท้จริง… สุขสันต์วันเกิด และขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน