เบอร์นาร์โด ซิลวา มิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอบคำถามเกี่ยวกับอนาคตของตนเอง หลังเหลือสัญญากับทีมไม่ถึง 12 เดือน ดาวเตะวัย 31 ปี รายนี้ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะอำลาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในซัมเมอร์หน้าหรือไม่ เมื่อสัญญาของเขาสิ้นสุดลง
ฤดูกาลนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา แต่งตั้งให้ ซิลวา รับบทกัปตัน เพื่อฟื้นฟูภาวะผู้นำที่ขาดหายไปจากปีก่อน โดยช่วงต้นซีซั่น ไคล์ วอล์กเกอร์ ได้เริ่มต้นในฐานะกัปตันทีม แต่ย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน ในเดือนมกราคม ก่อนย้ายต่อไป เบิร์นลีย์ ช่วงซัมเมอร์ ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เข้ามาแทน ต้องเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน
ซิลวา ได้รับความเคารพมากขึ้นจากกุนซือชาวสเปน เพราะไม่เคยหายหน้าไปไหนแม้ทีมอยู่ในช่วงฟอร์มตก และตอนนี้เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาสู่เส้นทางเดิม การเก็บสามแต้มในเกมที่ โมนาโก คืนวันพุธ จะทำให้พวกเขาคว้าชัยสองนัดติดใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี หลังจากฤดูกาลก่อนหลุดวงโคจรรอบน็อกเอาต์อย่างน่าผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม อนาคตของ ซิลวา ยังไม่แน่ว่าเขาจะอยู่กับทีมอีกนานเท่าไร สัญญาของเจ้าตัวจะสิ้นสุดในปี 2026 และตลอดเวลาที่ผ่านมา เขามักถูกเชื่อมโยงกับการกลับไปเล่นให้ เบนฟิก้า ต้นสังกัดเก่า รวมถึงข่าวลือเกี่ยวกับการย้ายไปค้าแข้งใน ซาอุดี โปร ลีก ที่โผล่มาในสัปดาห์นี้
ซิลวา กล่าวว่าสิ่งที่เขาจะเลือกนั้นเขาตัดสินใจไว้แล้ว แต่เวลานี้เขามีสมาธิเต็มร้อยกับการพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
“ผมรู้ดีว่าผมจะทำอะไร แต่ยังไม่ใช่เวลาที่จะพูด ตอนนี้คือช่วงเวลาที่ต้องโฟกัสกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำเต็มที่เพื่อพาสโมสรกลับไปยืนตรงที่ควรจะเป็น” เขากล่าวระหว่างการกลับไปเยือนทีมเก่า โมนาโก
“เรารู้ว่าที่ผ่านมาเคยมีหลายกัปตันที่ย้ายออกไป แต่หน้าที่ของผู้เล่นที่มีประสบการณ์มากที่สุดคือการส่งต่อสิ่งเหล่านี้ให้กับรุ่นน้อง และหวังว่าพวกเขาจะสานต่อเป็นผู้นำคนต่อไป ตอนนี้ผมตั้งใจจะทำฤดูกาลที่ดีให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และพาทีมกลับมาสู่ระดับที่สมควรอยู่”
“ในฐานะกัปตันหลัก คุณต้องดูแลไม่ให้เรื่องบางอย่างเกิดขึ้น และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสม สิ่งที่เราเห็นจากทีมชุดนี้คือความเป็นนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น”
“หน้าที่ของผมคือสร้างพลังบวกและเคมีภายในทีมกลับคืนมาในกลุ่มผู้นำ เพื่อให้ทุกคนมีพฤติกรรมที่ถูกต้องทั้งในสนามซ้อมและการแข่งขัน เข้ามาเช้า ฝึกซ้อมอย่างมืออาชีพ และดูแลตัวเอง”
“แต่หน้าที่นี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น ในอดีตเราแข็งแกร่งได้เพราะมีผู้เล่น 10 ถึง 15 คนที่แสดงภาวะผู้นำเหมือนกัปตัน และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ”