สถานการณ์ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด กำลังร้อนระอุถึงขีดสุด เมื่อ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของร่วมของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเดินทางด่วนด้วยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวมายังสนามซ้อมแคร์ริงตันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อเข้าประชุมเครียดกับทีมงานบริหาร รวมถึงการพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับ รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมที่กำลังตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก
แม้แหล่งข่าวภายในสโมสรจะยืนยันว่าการมาเยือนของแรตคลิฟฟ์เป็นไปตามกำหนดการเดิม แต่ก็ยอมรับว่าประเด็นเรื่อง “ฟอร์มการเล่นของทีม” ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นวาระสำคัญในการพูดคุยครั้งนี้ หลังจากทีมออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างน่าผิดหวัง ชนะเพียง 1 จาก 4 นัดในพรีเมียร์ลีก ล่าสุดคือการบุกไปพ่ายคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบหมดรูป 0-3 อีกทั้งยังตกรอบคาราบาว คัพ อย่างน่าอับอายด้วยการแพ้ให้กับทีมจากลีกทูอย่าง กริมสบี้ ทาวน์
สถานการณ์ของ อโมริม ยิ่งดูย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อผลงานในสนามสวนทางกับการลงทุนมหาศาลกว่า 200 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพื่อคว้าตัว 3 ประสานในแนวรุกอย่าง ไบรอัน เอ็มเบอโม่, เบนจามิน เซสโก้ และ มาเธอุส คุนญา เข้ามาเสริมทัพ แต่ทีมก็ยังคงมีปัญหาในการสร้างสรรค์เกมและจบสกอร์
กุนซือชาวโปรตุกีสถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความยึดมั่นในปรัชญาและแผนการเล่นของตนเอง แม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นใจ โดยหลังเกมพ่ายแพ้ต่อแมนฯ ซิตี้ เขาก็ได้ตอกย้ำจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจนว่า “ผมจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางของผม ถ้าคุณอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง คุณก็ต้องเปลี่ยนตัวคน”
คำพูดดังกล่าวสอดคล้องกับที่ แรตคลิฟฟ์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเดือนมีนาคมถึงความสัมพันธ์อันตรงไปตรงมาของเขากับอโมริมว่า “ผมเข้าไปบอกเขาว่าตรงไหนที่มันผิดพลาด และเขาก็บอกให้ผมไปไกลๆ… ผมชอบเขานะ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบรรยากาศที่เปิดกว้างแต่ก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดภายในสโมสร
เกมพรีเมียร์ลีกที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ในวันเสาร์นี้ จึงถูกมองว่าเป็นนัดชี้ชะตาอนาคตของ อโมริม อย่างแท้จริง เพราะหากผลการแข่งขันยังคงไม่เป็นที่น่าพอใจ ก็อาจเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ในฐานะผู้จัดการทีมก็เป็นได้