ฤดูกาล 2025 อาจจะจบลงด้วยภาพประวัติศาสตร์ที่สองพี่น้องตระกูลมาร์เกซครองบัลลังก์แชมป์และรองแชมป์โลก MotoGP แต่สำหรับ อเล็กซ์ มาร์เกซ แล้ว ความสำเร็จในฐานะ “รองแชมป์” ที่เพิ่งการันตีได้ที่เซปังนั้น เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความท้าทายครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม… นั่นคือการก้าวข้ามพี่ชายของเขาเอง
ณ วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2025 แม้จะยังเหลือการแข่งขันอีก 2 สนาม แต่ อเล็กซ์ มาร์เกซ ก็ไม่สามารถหยุดคิดถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากำลังจะได้รับ “อาวุธ” ชิ้นสำคัญที่ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เท่าเทียมกันมากขึ้น
อัปเกรดสู่ “รถโรงงาน” และความกดดันที่เพิ่มขึ้น อเล็กซ์ มาร์เกซ ได้พิสูจน์ฝีมือของตัวเองอย่างหมดจดบนรถแข่ง GP24 ในฤดูกาลนี้ และรางวัลตอบแทนก็คือ ในฤดูกาล 2026 เขาจะได้รับรถ Ducati สเปคโรงงานเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับที่พี่ชายของเขา มาร์ค มาร์เกซ และ เป็คโก้ บันยาญ่า ใช้ นี่คือสิ่งที่เขา “คู่ควร” อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในขณะเดียวกัน มันก็คือ “ความกดดัน” ที่เพิ่มขึ้นมหาศาล
“ปีหน้า ผมยอมรับว่าเราจะมีความกดดันในการต่อสู้เพื่อแย่งแชมป์โลกไปจนถึงที่สุด” อเล็กซ์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “มันเป็นเรื่องปกติ แต่การจะเปลี่ยนแนวทางความคิดคงเป็นเรื่องที่ผิดพลาด เราต้องใช้ความคิดแบบเดิม: ไปทดสอบปรีซีซั่นและเตรียมตัวสำหรับเรซเหมือนที่เราทำในตอนนี้”
“ผมไม่ได้มองว่านี่คือการที่ Ducati มอบรถให้ผมเพื่อ ‘ทดสอบ’ สำหรับปี 2027 นะ ผมมองว่ามันคือการทดสอบสำหรับตัวผมเอง ผมไม่อยากให้ต้องมาพูดทีหลังว่า ‘ถ้าหาก…’ ผมรู้ว่าผมจะมีอาวุธที่ดีที่สุดอยู่ในมือ”
เรียนรู้จากเงา… ไม่ใช่อิจฉา การคว้าตำแหน่งรองแชมป์โลกในปีที่พี่ชายคว้าแชมป์โลก ทำให้อเล็กซ์กล่าวติดตลกกับสื่อว่าเขาคือ “ผู้แพ้คนแรก” แต่เขาก็ยอมรับว่าความรู้สึกที่ได้รับนั้น “พิเศษ” และ “ใกล้เคียง” กับตอนที่เขาคว้าแชมป์โลกในรุ่นเล็กทั้งสองสมัย
“มันมีสองทางที่จะรับมือกับมัน (การมีพี่ชายที่เก่งที่สุด)” เขาวิเคราะห์ “หนึ่งคือคุณอิจฉาเขา… หรืออีกทางคือ: ‘เขาทำอะไรได้ดีกว่า? และฉันจะเรียนรู้จากมัน’ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด การที่ได้อยู่เคียงข้างเขามาตลอดชีวิตสอนผมเรื่องนี้ ผมไม่มีความรู้สึกอิจฉาเลย”
เป้าหมายสูงสุด: “ไม่มีใครที่แตะต้องไม่ได้” เมื่อมองไปยังฤดูกาล 2026 เป้าหมายของ อเล็กซ์ ชัดเจน เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่รักษาฟอร์ม แต่ต้องการก้าวไปให้ถึงจุดสูงสุด และเขาก็รู้ดีว่ากุญแจสำคัญในการเอาชนะ มาร์ค คืออะไร “ผมพูดเสมอว่ามันยากมากที่จะเอาชนะ มาร์ค ตลอด 22 เรซ ความมุ่งมั่นที่เขามีในการขี่ไปถึงขีดจำกัดนั่นแหละคือกุญแจสำคัญ”
และเขาก็ได้ทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ทรงพลังที่สุด ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นทั้งหมดที่เขามีต่อฤดูกาลหน้า:
“ไม่มีใครที่แตะต้องไม่ได้… และเราจะได้เห็นกันว่าเมื่อมีรถเหมือนกันแล้ว มันจะเป็นอย่างไร“
				