7msport

อัลเดเกร์ เปิดใจถึง “จุดคลิก” ที่เปลี่ยนเขาจากรูคกี้ผู้ผิดหวัง สู่ดาวรุ่งแห่งปี

แม้จะจบฤดูกาล 2025 ด้วยตำแหน่ง “ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี” (Rookie of the Year) อย่างสง่างาม แต่เส้นทางของ เฟร์มิน อัลเดเกร์ ในคลาสสูงสุด MotoGP กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันเต็มไปด้วยความผิดพลาด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ฉาย “ประกายความเร็ว” อันเจิดจ้า โดยเฉพาะในช่วงท้ายเรซ ที่ทำให้ดูคาติต้องจับตามอง

ความคาดหวังที่มีต่อ อัลเดเกร์ ตอนเริ่มต้นฤดูกาลนั้น ถูกแบ่งเป็นสองฝั่ง ชัยชนะอันน่าทึ่งในช่วงปลายปี 2023 ใน Moto2 ทำให้เขาได้สัญญาระดับ MotoGP แต่ผลงานในปีสุดท้ายของคลาสกลาง (ซึ่งเป็นปีแรกกับยาง Pirelli) กลับ “น่าผิดหวัง” หลายคนจึงมองว่าปี 2025 คือ “ปีแห่งการเรียนรู้” มากกว่าการไล่ล่าผลงาน

และมันก็เป็นเช่นนั้น… ในช่วงแรก

“ความคาดหวังที่มีต่อผมเปลี่ยนไปมากในช่วงต้นฤดูกาล” อัลเดเกร์ ให้สัมภาษณ์กับ Motorsport.com “เพราะเราอาจจะเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก และรูคกี้คนอื่นก็ดูดีกว่าผม”

ทว่า “จุดคลิก” ที่เปลี่ยนทุกอย่าง ไม่ได้มาพร้อมกับถ้วยรางวัล แต่คือ “การล้ม” ที่ออสติน

“ผมคิดว่า GP ที่ออสติน คือจุดที่เราก้าวข้ามขีดจำกัด” เขากล่าว “ในเรซนั้น ผมรู้สึกสุดยอดมาก ผมไต่อันดับจากที่ 12 ขึ้นมาอยู่ที่ 5 และกำลังไล่ตาม ฟรังโก มอร์บิเดลลี… สุดท้ายผมล้มในขณะที่เหลืออีกสองหรือสามรอบ แต่ความมั่นใจที่ผมได้รับจากเรซยาวในวันนั้น มันสำคัญมาก มันคือ ‘จุดคลิก’ สำหรับผม”

อาวุธลับ: “อสูร” ในช่วงท้าย

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ อัลเดเกร์ ในฤดูกาลนี้ คือ “ความเร็วในช่วงท้ายเรซ” ที่ชวนให้นึกถึงสไตล์ของ เอเนีย บาสเตียนินี สมัยรุ่งเรือง

“บอกตรงๆ ว่ามันยากที่จะอธิบาย” อัลเดเกร์ กล่าว “แต่ผมรู้สึกดีกับยางที่ใช้แล้วเสมอ แม้แต่ใน Moto2 ผมก็จัดการได้ดีในรอบท้ายๆ ผมไม่รู้ว่าเป็นที่สไตล์การขี่ของผม หรือวิธีที่ผมใช้คันเร่ง แต่ผมรู้สึกดีกว่าในช่วงท้ายเรซเสมอ”

จุดอ่อน: “ผมต้องล้มอีก”

อย่างไรก็ตาม อาวุธลับนี้จะไม่จำเป็นเลยหากเขาออกสตาร์ทจากแถวหน้า ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่เขายอมรับ อัลเดเกร์ ไม่สามารถผ่านเข้า Q2 ได้โดยตรงถึง 8 ครั้งจาก 20 สนาม

“หนึ่งในเป้าหมายของผมคือการพัฒนารอบคัดเลือก” เขากล่าวอย่างมุ่งมั่น “เมื่อคุณอยู่ใน Q2 และออกสตาร์ทจากแถวหน้า มันก็ง่ายกว่าที่จะจัดการเรซ”

“มันเป็นสิ่งที่ผมอยากปรับปรุง แต่มันต้องใช้เวลา… ต้องใช้ยางใหม่ให้มากขึ้น ต้องพยายามมองหาลิมิต เพราะตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน… ผมต้องการเวลามากกว่านี้ และต้องการ ‘การล้ม’ มากกว่านี้

นี่คือทัศนคติที่น่าทึ่ง การยอมรับว่า “การล้ม” คือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เพื่อค้นหาขีดจำกัด คือสิ่งที่บ่งบอกวุฒิภาวะเกินวัย

สัญญาใจสู่ “ทีมสีแดง” 2027

แม้จะล้มในจังหวะสำคัญๆ (เฆเรซ, แอสเซน, เซปัง) และเขายอมรับว่า “มันยากที่จะจัดการความรู้สึกตัวเอง เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณทำได้ดีกว่าผลลัพธ์ที่ออกมา” แต่อัลเดเกร์ก็มีเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นคือเก้าอี้ “ทีมโรงงานดูคาติ” ในปี 2027

เขายืนยันว่ามี “สัญญาโรงงาน” กับดูคาติแบบ ‘2+2’ “ในสัญญาของผม ถ้าคุณทำได้ดีสองฤดูกาล คุณก็มีโอกาสที่จะได้ไปทีมโรงงาน แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลงาน… ผมมั่นใจ 100% ว่าถ้าดูคาติเห็นว่าผมพร้อม พวกเขาจะมอบที่นั่งให้ผม”

แม้หนทางจะยังไม่ง่าย แต่ เฟร์มิน อัลเดเกร์ ได้วางรากฐานที่มั่นคงแล้ว เขาอาจยังไม่ใช่เพชรที่เจียระไนเสร็จสมบูรณ์ แต่เขาคือดาวรุ่งที่กล้าจะ “ล้ม” เพื่อที่จะแข็งแกร่งกว่าเดิม