สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอาชีพค้าแข้งของเขายังไปได้ไกลหลังจากแยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยในฤดูกาลแรกที่ย้ายมาเล่นในอิตาลี เขาไม่เพียงแค่คว้าแชมป์ เซเรีย อา กับ นาโปลี เท่านั้น แต่ยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลอีกด้วย
มิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์รายนี้จบฤดูกาลได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังเป็นคนซัดประตูเปิดหัวในเกมที่ นาโปลี เอาชนะ กายารี่ 2-0 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นชัยชนะที่การันตีตำแหน่งแชมป์ลีกด้วยการเฉือนแต้มเหนือ อินเตอร์ มิลาน เพียงแต้มเดียว
หลังจบเกม แม็คโทมิเนย์ ทรุดตัวลงกับสนามพร้อมน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม
“ความเสียสละของทุกคนในทีมนี้มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ แฟนบอลสมควรได้รับสิ่งนี้ เพราะพวกเขาสนับสนุนเรามาตั้งแต่วันแรก สำหรับผมแล้ว การได้มาอยู่ที่นี่และสัมผัสสิ่งเหล่านี้เหมือนฝันเลยครับ” แม็คโทมิเนย์ ให้สัมภาษณ์กับ DAZN
ที่เมืองเนเปิลส์ แฟนบอลต่างเรียกเขาว่า “แม็คฟราต์ม” ซึ่งเป็นการเล่นคำระหว่างนามสกุลของเขาและคำว่า “Fratm” ในภาษาท้องถิ่นที่แปลว่า “พี่ชายของฉัน”
“ภาษาอิตาเลียนของผมพอเข้าใจได้ แต่จะให้พูดเองยังต้องใช้ความมั่นใจเยอะ มันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะถ้าคุยกับคนที่ไม่พูดอังกฤษเลย ผมรู้สึกได้ถึงความรักจากที่นี่จริง ๆ ผมเพิ่งเรียนคำว่า ‘เฟสเตจจาโม อันเดียโม’ แปลว่า ไปฉลองกันเถอะ!” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากปิดฉากเส้นทางอาชีพ 22 ปีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แม็คโทมิเนย์ ก็โชว์ฟอร์มโดดเด่นในสีเสื้อของ นาโปลี ยิงไป 12 ประตูในลีก และสุดท้ายได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีทันทีหลังจบฤดูกาล
ก่อนหน้านี้ในเดือนเดียวกัน อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือของ นาโปลี กล่าวชื่นชมความพัฒนาของลูกทีมรายนี้ โดยระบุว่า เขากำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญในเส้นทางอาชีพ
“เขาเริ่มเข้าใจเกมมากขึ้นและดูมีความมั่นใจมากกว่าเดิม ตอนอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาไม่เคยได้บทบาทหลักเหมือนที่เราให้ที่นี่” คอนเต้ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
“เขาทำงานหนักมาตลอด และตอนนี้ก็กลายเป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบ”
อีกหนึ่งการเซ็นสัญญาครั้งใหญ่ของ นาโปลี ในซัมเมอร์ที่ผ่านมาอย่าง โรเมลู ลูกากู ที่ย้ายมาจาก เชลซี ก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน โดยในเกมกับ กายารี่ เขายิงประตูที่สองให้ทีม ซึ่งเป็นประตูที่ 14 ของเขาในฤดูกาลนี้ พร้อมกับแอสซิสต์อีก 10 ครั้ง มากที่สุดในลีก
คอนเต้ ซึ่งให้ความสำคัญกับการดึงทั้ง ลูกากู และ แม็คโทมิเนย์ เข้ามาเสริมทัพตั้งแต่วันแรกที่รับงานคุมทีม ก็ได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ เซเรีย อา ไปครองเช่นกัน
ขณะที่รางวัลอื่น ๆ ใน เซเรีย อา ประจำฤดูกาลนี้ตกเป็นของ
-
ไมล์ สวิลาร์ จาก โรม่า (ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม)
-
อเลสซานโดร บาสโตนี่ จาก อินเตอร์ มิลาน (กองหลังยอดเยี่ยม)
-
ติจานี่ เรจน์เดอร์ส จาก เอซี มิลาน (มิดฟิลด์ยอดเยี่ยม)
-
มาเตโอ เรเตกี จาก อตาลันต้า (กองหน้ายอดเยี่ยม)
-
นิโก้ ปาซ หัวหอกจาก โคโม่ (นักเตะดาวรุ่งอายุต่ำกว่า 23 ปียอดเยี่ยม)