ลีดส์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างนักเตะจากระบบอคาเดมี โดยมีดาวรุ่งหลายรายที่รอวันก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในอนาคต
ตัวอย่างล่าสุดคือ อาร์ชี เกรย์ ที่โชว์ฝีเท้าจนสามารถเบียดติดทีมชุดใหญ่ในยุคของ แดเนียล ฟาร์เคอ ก่อนจะถูกขายให้กับ ทอตนัม ฮอตสเปอร์ ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ และสามารถคว้าแชมป์ยูโรปาลีกได้ทันทีในฤดูกาลแรกกับทีมดังแห่งลอนดอนเหนือ
การย้ายทีมนั้นทำให้ อาร์ชี เกรย์ กลายเป็นหนึ่งในการขายที่มีมูลค่าสูงที่สุดของสโมสร โดยก่อนหน้านั้นเป็นรองเพียงการย้ายออกของ จอร์จินโย รุตเตอร์ ที่ไปอยู่กับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ในราคา 40 ล้านปอนด์
ล่าสุดสายเลือดตระกูลเกรย์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะน้องชายอย่าง แฮร์รี เกรย์ กำลังเป็นดาวรุ่งที่ถูกจับตามอง หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในระดับเยาวชน และเคยประเดิมลงเล่นใน แชมเปียนชิป ไปแล้วเมื่อฤดูกาลก่อนในฐานะตัวสำรอง
กองหน้าวัย 16 ปีรายนี้เพิ่งระเบิดแฮตทริกให้ทีม U21 ในศึกเนชันแนล ลีก คัพ กับ สคันธอร์ป ยูไนเต็ด ทำให้ยอดรวมประตูของเขาในซีซันนี้เพิ่มเป็น 7 ลูกจากทุกรายการ โดยก่อนหน้านี้เขายังซัดไปถึง 8 ประตูจากการลงเล่นเพียง 11 เกมให้กับทีม U18 ก่อนจะถูกดันขึ้นชุด U21
อย่างไรก็ตาม แฟนบอลจำนวนไม่น้อยเชื่อว่า ลีดส์ เคยมีนักเตะที่มีศักยภาพสูงกว่านี้อยู่ในมือ นั่นคือ ชาร์ลี เครสเวลล์ กองหลังที่เติบโตมาจากอะคาเดมีของสโมสรตั้งแต่อายุ 11 ปี
เครสเวลล์ เคยได้รับโอกาสลงสนามใน พรีเมียร์ลีก 5 นัดกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2021/22 ก่อนจะถูกปล่อยให้ มิลล์วอลล์ ยืมตัวไปใช้งานในซีซันถัดมา ซึ่งเขาสามารถยิงได้ถึง 5 ประตูจากการเล่น 28 นัดใน แชมเปียนชิป ถือเป็นผลงานที่โดดเด่นสำหรับกองหลังวัยรุ่น
ทว่าเมื่อถึงฤดูกาล 2023/24 เขากลับได้ลงเล่นในลีกรวมเพียง 135 นาทีเท่านั้น และในซัมเมอร์ปี 2024 ฟาร์เคอ ก็ตัดสินใจขายเขาให้กับ ตูลูส ด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านปอนด์
ผลงานของเขาในฝรั่งเศสกลับสวนทาง เพราะ เครสเวลล์ โชว์ฟอร์มโดดเด่นจนถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่มีสถิติยอดเยี่ยมที่สุดของลีกเอิงฤดูกาลที่ผ่านมา จนตกเป็นข่าวกับหลายสโมสรใหญ่ทั้ง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ซันเดอร์แลนด์ และแม้กระทั่งแชมป์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล แต่ ตูลูส ยืนยันไม่ปล่อยและตั้งค่าตัวไว้สูงถึง 18 ล้านปอนด์
สิ่งนี้สะท้อนอย่างชัดเจนว่าการขาย เครสเวลล์ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ ลีดส์ ยูไนเต็ด เพราะนักเตะพิสูจน์แล้วว่าสามารถเล่นได้ทั้งใน แชมเปียนชิป และ ลีกเอิง ต่างจาก แฮร์รี เกรย์ ที่ยังอยู่ในช่วงพิสูจน์ตัวเองในทีมชุดเยาวชน
สำหรับแฟนบอล ยูงทอง บทเรียนครั้งนี้อาจเป็นคำเตือนว่าสโมสรไม่ควรรีบขายดาวรุ่งที่ยังมีศักยภาพ เพราะหากได้รับโอกาสถูกที่ถูกเวลา เขาอาจกลายเป็นกำลังหลักของทีมได้ในอนาคต