อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดจากทีม BK8 Gresini Racing ได้ออกมาเปิดเผยเบื้องหลังการต่อสู้อันสุดทรหดในการคว้าโพเดี้ยมอันดับ 3 ที่ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ โดยยอมรับว่าเขาเกือบจะหมดหวังไปแล้วตั้งแต่ก่อนที่สัญญาณไฟแดงจะดับลงเสียอีก
แม้ว่า มาร์ค มาร์เกซ พี่ชายของเขาจะโชคร้ายต้องออกจากการแข่งขันไป แต่ อเล็กซ์ ก็สามารถทำภารกิจของตนเองได้สำเร็จ ด้วยการเก็บคะแนนสำคัญและขยับหนี ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ในการลุ้นตำแหน่งรองแชมป์โลกออกไปอีก
“ผมเริ่มต้นเรซได้แย่มาก” อเล็กซ์สารภาพ “ผมไม่สามารถเปิดใช้งานอุปกรณ์ Holeshot ด้านหน้าได้ ผมถึงกับพูดกับตัวเองว่า ‘ลาก่อนเรซนี้'”
“แต่โชคดีที่ผมยังสามารถออกสตาร์ทได้ค่อนข้างดี แม้จะเสียไปบางตำแหน่งก็ตาม” เขากล่าวเสริม โดยหลังจากจบการแข่งขันรอบแรก เขาอยู่ในอันดับที่ 8
อเล็กซ์ยอมรับว่าในช่วงแรก โพเดี้ยมดูเหมือนจะอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่เขาก็อาศัยความอดทนและค่อยๆ ไล่เก็บอันดับกลับคืนมา “ในช่วงแรกผมติดอยู่หลังกลุ่มรถ Yamaha ของ กวาร์ตาราโร่ และ รินส์ ซึ่งเร็วมากกับยางซอฟต์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแซงพวกเขา”
“แต่หลังจากนั้น ผมก็เริ่มแซงได้และรู้สึกดีขึ้น ผมทำทุกอย่างด้วยความอดทน พยายามไม่ทำผิดพลาด” เขาเล่าถึงการไล่แซงคู่แข่งจนขยับขึ้นมาถึงอันดับ 2 ได้สำเร็จ ก่อนที่จะเสียตำแหน่งคืนให้กับ เปโดร อคอสต้า ในช่วงท้าย “ในช่วงสองรอบสุดท้าย เปโดรเร็วกว่าผม ผมจึงบอกกับตัวเองว่าโพเดี้ยมก็โอเคแล้วหลังจากปัญหาทั้งหมดที่เราเจอมาในสุดสัปดาห์นี้”
การคว้าโพเดี้ยมในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันทำให้เขามีคะแนนทิ้งห่าง ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ในการลุ้นตำแหน่งรองแชมป์โลกไปถึง 88 คะแนน แล้ว ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 4 สนาม ซึ่งหมายความว่า อเล็กซ์ อยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบอย่างมหาศาลในการสร้างประวัติศาสตร์จบฤดูกาลในอันดับ 1-2 ร่วมกับพี่ชายของเขา
“เราเก็บคะแนนที่สำคัญมากสำหรับอันดับสองในแชมเปี้ยนชิพ ตอนนี้เราต้องมองไปข้างหน้าที่ออสเตรเลีย” เขากล่าวปิดท้าย