อเล็กซ์ มาร์เกซ (Gresini Racing) ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่า เขาต้อง “ดิ้นรนอย่างหนัก” (Suffer) กับยางมิชลิน เพื่อแลกกับการคว้าอันดับ 2 ในศึก โปรตุเกส กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แม้ว่า อเล็กซ์ จะถูกยกให้เป็น “ตัวเต็ง” ของสนามนี้ หลังจากการทำความเร็วได้อย่างน่าทึ่งในรอบซ้อมวันศุกร์ และคว้าชัยชนะใน Sprint Race มาได้… แต่ในเรซหลักวันอาทิตย์ เขากลับไม่สามารถต้านทานความร้อนแรงของ มาร์โก เบซเซคคี (Aprilia) ได้
อเล็กซ์ ไม่เพียงแต่ยอมรับว่าคู่แข่งเร็วกว่า แต่ยังต้อง “ต่อสู้อย่างทรมาน” เพื่อรักษาตำแหน่งรองแชมป์จาก เปโดร อคอสต้า ที่ไล่บี้มาอย่างหนัก
“พูดกันตามตรง วันนี้ มาร์โก (เบซเซคคี) เร็วกว่าเรา” อเล็กซ์ กล่าวผ่าน Crash.net “ตั้งแต่รอบวอร์มอัพ ผมเห็นเขากดเวลาแบบ ‘บินได้’ และผมก็พูดกับตัวเองว่า ‘ว้าว วันนี้เหนื่อยแน่’ แต่โอเค เราไม่มีอะไรจะเสีย เราจะพยายามตามเขาไป”
“ความเร็วในช่วงแรกมันสูงมาก… และสุดท้าย ผมก็ ‘ทำลาย’ ยางหน้าฝั่งขวาของตัวเองจนพังยับ”
“ผมต้อง ‘ทรมาน’ อย่างหนักเพื่อรักษาอันดับ 2 จาก เปโดร” อเล็กซ์ กล่าวเสริม “แต่ยังไงก็ตาม ผมพยายามอย่างที่สุดแล้ว เมื่อวาน (Sprint) เราเร็วที่สุดในสนาม แต่วันนี้ มาร์โก ดีกว่าเรามาก”
เบื้องหลังความ “ไร้เทียมทาน” ของ Aprilia
อเล็กซ์ ได้เปิดเผย “กุญแจสำคัญ” ที่ทำให้ เบซเซคคี พลิกสถานการณ์กลับมาชนะในวันอาทิตย์ นั่นคือการที่คู่แข่ง “ทำการบ้าน” มาจากเรซเมื่อวาน
เขายอมรับว่า Aprilia “คลิก” ถูกจุดในวันอาทิตย์ จนอยู่ในระดับที่ “ไร้เทียมทาน” (Unbeatable)
“ผมคาดไว้แล้วว่า มาร์โก และ Aprilia จะต้องเร็วมากที่นี่ หลังจากที่ บีญาเลส ทำไว้เมื่อปีก่อน”
อเล็กซ์ ชี้ว่า เบซเซคคี สามารถพัฒนาความเร็วในวันอาทิตย์ได้ ด้วยการ “ขี่ตามไลน์” ของเขาใน “เซคเตอร์สุดท้าย” ช่วง Sprint Race ซึ่งเป็นจุดที่ อเล็กซ์ เคยใช้สร้างความได้เปรียบ
“มาร์โก มีจังหวะเข้าโค้งที่ดีกว่า เขาสามารถรักษาไลน์ได้คงที่ และนั่นคือเหตุผลที่ผมทำลายยางหน้าของตัวเอง”
“ผมเจอปัญหา ‘ยางแตกเป็นขุย’ (Graining) อย่างหนัก เพราะผมต้อง ‘ฝืน’ รถมากเกินไปในโค้งสุดท้าย… ในขณะที่ มาร์โก ขี่ได้ ‘ไหลลื่น’ (Flowing) กว่าผมมาก”
นอกจากนี้ อเล็กซ์ ยังชี้ให้เห็นถึง “จุดอ่อน” เดิมของ ดูคาติ ที่พวกเขายังต้องปรับปรุง นั่นคือปัญหาใน “โค้งความเร็วสูงที่มีพื้นผิวขรุขระ” ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกับที่พวกเขาเจอที่ ออสเตรเลีย
“จุดที่เราเจอปัญหาเล็กน้อยที่ ออสเตรเลีย คือโค้งเร็วๆ ที่มีบั๊มพ์… ที่นี่ เราก็เจอปัญหาเดิม และเราต้องปรับปรุงมันต่อไป”