อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดสังกัดทีม BK8 Gresini Racing ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้มาก่อน ว่าเขาเคยตกเป็น “ผู้รับเคราะห์” โดยตรงจากมหากาพย์ความขัดแย้งอันโด่งดังระหว่างพี่ชายของเขา มาร์ค มาร์เกซ และตำนานนักบิด วาเลนติโน่ รอสซี่ ซึ่งส่งผลให้สัญญาที่เขาเซ็นกับทีมแซทเทิลไลท์ของ Yamaha ถูกฉีกทิ้งอย่างไม่เป็นธรรม
ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ “El Cafelito” บน YouTube, อเล็กซ์ ได้ย้อนความหลังไปถึงช่วงเวลาที่เขายังคงแข่งขันอยู่ในรุ่น Moto2 ว่าเขาเคยได้รับข้อเสนอและได้จรดปากกาเซ็นสัญญากับทีมแซทเทิลไลท์ของ Yamaha เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในอาชีพของเขาในขณะนั้น
อย่างไรก็ตาม ความฝันที่จะได้ร่วมงานกับค่ายส้อมเสียงกลับพังทลายลงในเวลาเพียง 5 วัน “สัญญาฉบับนั้นมีอายุอยู่แค่ 5 วัน” อเล็กซ์ เผย “ทีมแซทเทิลไลท์ตกลงกับผม ผมทำในสิ่งที่ต้องทำและเซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ปัญหาคือแบรนด์แม่อย่าง Yamaha ต้องเป็นคนอนุมัติขั้นสุดท้าย และการอนุมัตินั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้น”
อเล็กซ์ ยอมรับว่า Yamaha ไม่ได้ให้เหตุผลกับเขาโดยตรง แต่เขารับรู้ได้ในทันทีว่าต้นตอของปัญหามาจากความขัดแย้งอันดุเดือดระหว่างพี่ชายของเขากับ รอสซี่ ไอคอนของ Yamaha ในปี 2015
เมื่อถูกถามว่าความบาดหมางครั้งประวัติศาสตร์นั้นคือสาเหตุที่แท้จริงใช่หรือไม่ อเล็กซ์ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ใช่ มันคือเรื่องนั้นแหละ ผมคือผู้รับเคราะห์ในเรื่องนี้ ผมต้องมารับผลจากเรื่องที่ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย”
นักบิดชาวสเปนยังกล่าวเสริมว่า แม้เขาจะไม่ชอบใช้คำว่า “วีโต้” หรือ “ถูกสกัดกั้น” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็มีลักษณะเช่นนั้นทุกประการ เขาเข้าใจว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความตึงเครียดต่างๆ ก็ลดน้อยลง แต่ในช่วงเวลานั้น การตัดสินใจของ Yamaha ได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับรอสซี่อย่างไม่ต้องสงสัย
เพื่อความเข้าใจในบริบท ความขัดแย้งระหว่าง มาร์ค มาร์เกซ และ วาเลนติโน่ รอสซี่ ได้ปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในฤดูกาล 2015 เมื่อรอสซี่กล่าวหาว่ามาร์เกซพยายามขี่เพื่อช่วยให้ ฮอร์เก้ ลอเรนโซ่ เพื่อนร่วมชาติชาวสเปนคว้าแชมป์โลกไปจากเขา ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ปะทะกันในสนามที่เซปัง และกลายเป็นรอยร้าวครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อวงการ MotoGP มาจนถึงทุกวันนี้ และดูเหมือนว่า อเล็กซ์ มาร์เกซ คือหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก “มรดกบาป” ในครั้งนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้