7msport

ปิดตำนานซานซิโร่! เอซี-อินเตอร์ มิลาน ทุ่ม 1.2 พันล้านยูโร เตรียมทุบทิ้งสร้างรังเหย้าแห่งใหม่

ถึงเวลาสิ้นสุดของยุคสมัยอย่างเป็นทางการ เมื่อมีรายงานยืนยันว่า “ซาน ซิโร่” หรือ จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า หนึ่งในสนามฟุตบอลที่โดดเด่นและมีมนต์ขลังที่สุดในโลก จะถูกขายให้กับสองสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเมืองมิลานอย่าง เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน เพื่อปูทางไปสู่การ “ทุบทิ้ง” และสร้างรังเหย้าแห่งใหม่ที่ทันสมัยยิ่งกว่าเดิม

ข้อตกลงมูลค่า 197 ล้านยูโร และโครงการแห่งอนาคต

ตามรายงาน สองสโมสรแห่งเมืองมิลานได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อกรรมสิทธิ์สนาม ซาน ซิโร่ จากสภาเมืองมิลานด้วยมูลค่า 197 ล้านยูโร (ประมาณ 7,680 ล้านบาท) ซึ่งจะทำให้พวกเขาสามารถเดินหน้าโครงการก่อสร้างสนามแห่งใหม่ได้อย่างเต็มรูปแบบ

โครงการยักษ์ใหญ่นี้คาดว่าจะใช้งบประมาณสูงถึง 1.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 46,800 ล้านบาท) โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างสนามฟุตบอลที่ “ล้ำสมัยที่สุด” (ULTRA-MODERN) มีความจุ 71,500 ที่นั่ง และคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานภายในปี 2031

ปิดฉาก 100 ปี “ลา สกาลา แห่งวงการฟุตบอล”

การทุบทิ้งครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากตำนานที่ยืนยงมาเกือบศตวรรษ ซาน ซิโร่ ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1926 และการรื้อถอนที่จะเกิดขึ้นนี้ ก็จะใกล้เคียงกับวาระครบรอบ 100 ปีของสนามพอดี

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซาน ซิโร่ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ลา สกาลา แห่งวงการฟุตบอล” (La Scala of Football) เปรียบดั่งโรงละครโอเปร่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก แต่เป็นในเวอร์ชั่นของเกมลูกหนัง สนามแห่งนี้ได้เป็นสักขีพยานในช่วงเวลาประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งเกมฟุตบอลโลก, นัดชิงชนะเลิศ ยูโรเปี้ยน คัพ/แชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นเวทีให้ตำนานนักเตะอย่าง เปาโล มัลดินี่, ฟรังโก้ บาเรซี่, มาร์โก แวน บาสเท่น, โรนัลโด้ (R9), และ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ได้สร้างเรื่องราวอันน่าจดจำ

เหตุผลเบื้องหลัง: ก้าวสู่ยุคใหม่ของสองยักษ์ใหญ่

แม้จะเป็นเรื่องน่าใจหายสำหรับแฟนบอลทั่วโลก แต่การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่จำเป็นสำหรับทั้ง เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน ในการแข่งขันกับสโมสรชั้นนำอื่นๆ ในยุโรป สนามแห่งใหม่ที่สโมสรเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เอง จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้มหาศาล ทั้งจากค่าตั๋ว, ห้องสวีทสำหรับองค์กร, ร้านค้า และกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่สนามเก่าไม่สามารถตอบสนองได้ในโลกฟุตบอลยุคใหม่

แม้ว่าตำนานของ ซาน ซิโร่ กำลังจะเดินทางมาถึงบทสุดท้าย แต่เรื่องราวบทใหม่ของสองทีมแห่งเมืองมิลานกับ “มหาวิหารแห่งฟุตบอล” หลังใหม่ ก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่ช้า