หลังจากเดินทางถึงโมนาโกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อหน้าสื่อมวลชน ร่วมกับ ติอาโก้ สกูโร่ ประธานบริหารของสโมสร และเพื่อนร่วมทีมใหม่อย่าง เอริก ดายเออร์ และ อันซู ฟาตี
แม้ว่าจะเคยฝึกฝีเท้ากับ เลอ อาฟร์ แต่ ปอล ป็อกบา ก็ยังไม่เคยสัมผัสเกมลีกสูงสุดของฝรั่งเศสเลย ก่อนย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 16 ปี แล้วต่อด้วยการประสบความสำเร็จกับ ยูเวนตุส ซึ่งรวมถึงแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 ก่อนจะได้กลับมาสู่เวทีลีกเอิงในครั้งนี้
“เมื่อผมมองลูกๆ ของผม ผมก็บอกตัวเองว่าผมอยากให้พวกเขาได้เห็นผมเล่นในสนาม! ผมฝันที่จะให้พวกเขาได้ฉลองประตูกับท่าดาบของผม นั่นคือแรงผลักดันให้ผมฝึกซ้อมและรักษาวินัยไว้ วันนี้ผมมีความสุขมากที่ได้อยู่กับ อาแอ็ส มอนาโก และได้กลับมาทำงานที่ผมรัก!”
ความรู้สึกในวันที่เซ็นสัญญา ✍️
“มันเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกตื้นตันอย่างมาก ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นผมร้องไห้บ่อยนักนะ (ยิ้ม) ภาพความทรงจำมากมายผุดขึ้นมาในหัวผม โดยเฉพาะสิ่งที่ผมผ่านมา การได้กลับมาเซ็นสัญญากับ อาแอ็ส มอนาโก สโมสรที่เชื่อในตัวผม ทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่มันคือความสุขล้วนๆ ผมรู้สึกมุ่งมั่นมาก และผมคิดว่านี่คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดของผม”
ติอาโก้ สกูโร่ กล่าวว่า:
“กระบวนการเริ่มตั้งแต่วิดีโอคอลครั้งแรกที่เราชวน ปอล มาร่วมทีม ก่อนจะแนะนำให้รู้จักกับทีมงานที่พร้อมช่วยเขากลับมาสู่สนามอีกครั้ง เรามีบทสนทนาที่ดีมาก และตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นใหม่ของเขา เป้าหมายของเราคือพาเขากลับสู่ทีมชาติฝรั่งเศสและได้ไปฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งเรารับรู้ได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของเขา”
ข้อความแสดงความยินดี
“ผมได้รับข้อความมากมายที่ทำให้ผมประทับใจจริงๆ มันช่วยให้ผมรู้สึกดีทั้งร่างกายและจิตใจ และผมก็เห็นว่า อาแอ็ส มอนาโก มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม มีพลังบวก และผู้คนที่ดี ซึ่งจะช่วยให้ผมกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดได้ ผมเป็นคนที่มุ่งมั่น อยากกลับมาและสนุกกับฟุตบอลอีกครั้ง เพราะนั่นคือสิ่งที่ผมคิดถึงที่สุด”
ช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ⏳
“ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ผมใช้ชีวิตเหมือนคุณพ่อประจำบ้าน (ยิ้ม) พาลูกไปโรงเรียน แล้วไปฝึกซ้อม ก่อนจะไปรับลูกกลับบ้าน ผมใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและการฝึกซ้อม และไม่เคยหยุดแม้แต่ตอนเดินทาง ผมพาโค้ชฟิตเนสไปด้วยตลอด เพื่อให้พร้อมเสมอสำหรับโอกาสกลับสู่สนาม แน่นอนว่ามีช่วงที่สงสัยในตัวเอง แต่ผมไม่เคยมองย้อนกลับไป ผมอยากให้ลูกๆ เห็นผมยิงประตูและเต้นดาบไปด้วยกัน!”
รสชาติของการกลับมาสู่สนาม
“มันมีช่วงที่ทุกอย่างยุ่งเหยิงในหัวผม แต่ครอบครัว โดยเฉพาะภรรยา ช่วยดึงผมไว้และบอกว่าอย่ากังวล เดี๋ยวทุกอย่างจะกลับมาเอง ผมพยายามมีสมาธิกับเป้าหมายและวันนี้การได้เซ็นสัญญาก็เป็นก้าวแรก ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนนักเตะดาวรุ่งที่เพิ่งเซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรก มุ่งมั่นและมีความทะเยอทะยานมาก”
สิ่งที่รออยู่ข้างหน้า
“ตอนนี้คือช่วงที่ง่ายขึ้น เพราะผมอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีนักเตะดีๆ อยู่รอบตัว แต่การฝึกคนเดียวเป็นเรื่องยาก เพราะต้องมีแรงจูงใจสูงมาก บางครั้งผมก็รู้สึกหมดแรง แต่ก็ยังรักษาวินัยจนถึงวันที่สโมสรเรียกผมเข้าร่วม ผมมุ่งมั่นมาก (ยิ้ม) อยากลงสนามทันที แต่ผมก็รู้ว่าผมต้องอดทน”
ความอดทนคือกุญแจ
“ผมไม่สามารถรีบร้อนได้ เด็กๆ อาจอยากได้ทุกอย่างทันที แต่ทางสโมสรบอกว่าพวกเขาจะให้เวลาเต็มที่เพื่อให้ผมฟิตสมบูรณ์ ผมมาที่นี่เพื่อช่วยทีม แต่ผมไม่สามารถช่วยทีมได้หากร่างกายยังไม่พร้อมเต็มที่”
การเล่นในลีกเอิง ️
“สำหรับผม ลีกเอิงถือเป็นลีกที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง อาจครองความยิ่งใหญ่ในช่วงหลัง แต่ ลีลล์ และ อาแอ็ส มอนาโก เองก็แสดงให้เห็นว่าสามารถคว้าแชมป์ได้เช่นกัน ผมมีความสุขมากที่ได้มาเล่นในลีกนี้ และอยากยกระดับให้สูงขึ้นอีก”
ความหวังในการกลับสู่ทีมชาติ
“ผมได้คุยกับ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ เขาหยอกผมว่า ‘นายเซ็นสัญญาแล้วนะ กลับมาได้เลย’ (หัวเราะ) แน่นอนว่านั่นคือความฝันของนักเตะฝรั่งเศสทุกคน แต่ตอนนี้ผมขอโฟกัสที่การกลับมาฟิตสมบูรณ์ก่อน ผมไม่มีความแค้นในใจ มีแต่ความรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น และผมอยากจะกลับไปเล่นในสนามอย่างสนุกที่สุดเท่าที่จะทำได้”
การเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ
“การฝึกซ้อมช่วยให้ผมรักษาสภาพร่างกาย แต่ในด้านจิตใจ ผมได้พูดคุยกับหลายคนที่ให้คำแนะนำว่าให้โฟกัสกับปัจจุบัน อย่าหมกมุ่นกับอดีตหรือกังวลเรื่องอนาคต ผมซาบซึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะมันทำให้ผมเติบโตขึ้น ผมไม่ได้ต้องการล้างแค้นใคร แต่ผมแค่ต้องการกลับมาทำสิ่งที่รักที่สุดในชีวิต: การเล่นฟุตบอล”