7msport

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เตรียมเผชิญหน้ากับศึกตัดสินอนาคตสโมสรในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน วันอาทิตย์นี้

Newcastle United

ศึกในวันอาทิตย์ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ก คือเกมที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปตลอดกาล หากลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว เก็บชัยชนะได้ ก็จะการันตีการคว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อย่างเป็นทางการ

แต่หากพ่ายแพ้ โอกาสในการจบอันดับท็อปไฟว์ของ พรีเมียร์ลีก ก็จะอยู่บนเส้นด้าย เพราะยังต้องลุ้นให้ผลการแข่งขันคู่อื่นเป็นใจด้วย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

การผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลสโมสรยุโรปถ้วยใหญ่สุดนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ นิวคาสเซิล ทั้งในแง่ของชื่อเสียง รายได้ และศักยภาพในการเสริมทัพ โดยพวกเขามีโอกาสรับเงินเข้าสโมสรอย่างน้อยราว 17 ล้านปอนด์ หากสามารถคว้าตั๋วแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยให้สามารถดึงดูดนักเตะระดับท็อปเข้าร่วมทีมได้ง่ายขึ้นในช่วงตลาดซื้อขายที่จะมาถึง

ในทางกลับกัน หากไม่สามารถจบท็อปไฟว์ได้ เส้นทางในอนาคตอาจเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แม้จะไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ก็ถือเป็นการพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการยกระดับทีมสู่การเป็นขาประจำเวทีใหญ่ของยุโรป


หากผ่าน เอฟเวอร์ตัน ได้ นิวคาสเซิล จะมีงบเสริมทัพระดับมหาศาล

รายงานจาก iNews เผยว่า หาก นิวคาสเซิล ได้ไปเล่นแชมเปียนส์ลีก สโมสรจะมีพื้นที่งบประมาณภายใต้กฎการเงินของ พรีเมียร์ลีก หรือ PSR ราว 100 ล้านปอนด์

หากรวมกับเงินที่ทีมมีอยู่เดิม อาจทำให้ นิวคาสเซิล สามารถมีงบเสริมทัพในซัมเมอร์นี้ได้สูงถึง 150 ล้านปอนด์เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ตัวเลข “เฮดรูม” จากกฎ PSR หมายถึงเพดานที่สามารถใช้ได้โดยไม่ละเมิดข้อจำกัดด้านการเงิน ซึ่งแตกต่างจากงบโดยตรง

ยกตัวอย่างเช่น นักเตะที่มีค่าตัว 100 ล้านปอนด์ หากทำสัญญา 5 ปี ค่าตัวจะถูกเฉลี่ยเป็นปีละ 20 ล้านปอนด์ ซึ่งหมายความว่า หากต้องการ สโมสรสามารถเซ็นนักเตะระดับ 100 ล้านปอนด์ได้ถึง 3–4 คน โดยยังคงอยู่ภายใต้กรอบของ PSR

แต่ถ้าพลาดตั๋วแชมเปียนส์ลีก ตัวเลข “เฮดรูม” ดังกล่าวอาจลดลงมาอยู่ที่ราว 40–50 ล้านปอนด์เท่านั้น ซึ่งจะส่งผลต่อแผนเสริมทัพอย่างชัดเจน


เกมระหว่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กับ เอฟเวอร์ตัน คือศึกที่ใหญ่ที่สุดในยุคของ PIF

แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา นิวคาสเซิล จะสามารถคว้าตั๋วแชมเปียนส์ลีกได้แล้วหนึ่งครั้ง และมีถ้วยรางวัลติดมือในยุคของกองทุน PIF ที่เข้ามาบริหาร แต่เกมวันอาทิตย์นี้กลับถูกมองว่าเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจนถึงตอนนี้

การจบอันดับในกลุ่มหัวตารางของ พรีเมียร์ลีก จะช่วยปูทางให้สโมสรยกระดับจากทีมท้าชิง ไปสู่ทีมระดับหัวแถวที่มั่นคง ซึ่งจะช่วยรักษานักเตะฝีเท้าดีให้อยู่กับทีมได้ และต่อยอดความสำเร็จในระยะยาว

PIF เองก็แสดงความพึงพอใจกับผลงานของ เอ็ดดี้ ฮาว อย่างมาก และเห็นชัดว่าเขาได้พาสโมสรเดินหน้าในทิศทางที่ถูกต้อง

แต่หากสุดท้ายแล้ว นิวคาสเซิล พลาดโอกาสกลับไปยืนในเวทีระดับทวีปอีกครั้ง ตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ก็อาจเต็มไปด้วยอุปสรรคและความไม่แน่นอน


เกมนี้สำคัญเกินกว่าจะประเมินได้ต่ำ

ศึกในวันอาทิตย์นี้ไม่ใช่แค่การชิงสามแต้ม แต่คือการเดิมพันอนาคตของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทั้งในแง่ภาพลักษณ์ ทิศทางการพัฒนา และศักยภาพของสโมสรในอนาคต ทุกสายตาจึงจับจ้องไปยัง เซนต์ เจมส์ พาร์ก ด้วยความคาดหวังที่สูงที่สุด