7msport

ครบรอบ 30 ปี สกอร์เปี้ยนคิก: ย้อนรอยตำนาน เรเน่ ฮิกิต้า ผู้รักษาประตูที่โลกไม่ลืม

6 กันยายน 1995 ณ สนามเวมบลีย์อันศักดิ์สิทธิ์ โลกฟุตบอลได้จารึกหนึ่งในภาพจำที่ไม่มีวันลบเลือน เมื่อ เรเน่ ฮิกิต้า ผู้รักษาประตูทีมชาติโคลอมเบียผู้มีผมยาวสลวยเป็นเอกลักษณ์ ได้ปฏิวัติศิลปะการป้องกันประตูด้วยท่า “สกอร์เปี้ยน คิก” (Scorpion Kick) หรือ “ท่าแมงป่อง” อันลือลั่น และในวันนี้ คือวันครบรอบ 30 ปีของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นั้น

ในเกมกระชับมิตรกับทีมชาติอังกฤษ จังหวะที่ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ เปิดบอลโด่งเข้าหากรอบประตูดูเหมือนจะไม่มีอะไรอันตราย แต่แทนที่จะรับบอลแบบธรรมดา ฮิกิต้ากลับเลือกที่จะปล่อยให้บอลลอยข้ามศีรษะ ก่อนจะทิ้งตัวไปข้างหน้าแล้วใช้ส้นเท้าทั้งสองข้างเตะสกัดบอลออกจากเส้นประตูได้อย่างน่าอัศจรรย์ สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนบอลกว่า 20,000 คนในสนามและผู้ชมทั่วโลก

“มันเป็นบอลที่สมบูรณ์แบบ” ฮิกิต้าเล่าย้อนในสารคดีของเขา “ผมคิดว่า ‘ไม่มีปัญหา’ และมันก็ออกมาเพอร์เฟกต์”

จุดเริ่มต้นของตำนาน และชีวิตที่ยิ่งกว่านิยาย

ใครจะรู้ว่าท่าที่เปลี่ยนโลกนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการถ่ายทำโฆษณาน้ำอัดลมกับเด็กๆ เมื่อสองปีก่อนหน้านั้น แต่สำหรับผู้ชายที่ได้รับฉายาว่า “เอล โลโค่” (เจ้าบ้า) ความบ้าบิ่นและคาดเดายากคือสไตล์ของเขาอยู่แล้ว ฮิกิต้าไม่ได้เป็นแค่ผู้รักษาประตู แต่เขายังเป็นสวีปเปอร์-คีปเปอร์ (Sweeper-Keeper) ยุคบุกเบิกที่พร้อมจะออกมาเล่นนอกกรอบเขตโทษ, เลี้ยงบอลผ่านกองหน้าคู่แข่ง และยังมีสถิติการทำประตูตลอดอาชีพสูงถึง 43 ลูก

อย่างไรก็ตาม ชีวิตของเขาก็เต็มไปด้วยสีสันและความขัดแย้ง เขาเคยต้องโทษจำคุก 7 เดือนจากการเข้าไปพัวพันกับคดีลักพาตัวที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพ่อค้ายาเสพติดชื่อกระฉ่อนอย่าง ปาโบล เอสโกบาร์ ซึ่งทำให้เขาพลาดการลงเล่นฟุตบอลโลก 1994 อย่างน่าเสียดาย

มรดกที่ทิ้งไว้ และ “กฎฮิกิต้า”

นอกเหนือจาก “สกอร์เปี้ยน คิก” แล้ว สไตล์การเล่นของฮิกิต้ายังมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาครั้งสำคัญของฟีฟ่า นั่นคือ “กฎการส่งบอลคืนหลัง” (Back-pass rule) ในปี 1992 ที่ห้ามผู้รักษาประตูใช้มือรับบอลที่เพื่อนร่วมทีมส่งคืนมาให้ด้วยเท้า ซึ่งหลายคนเรียกกฎนี้ว่า “กฎฮิกิต้า” เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ที่แสดงให้โลกเห็นว่าผู้รักษาประตูสามารถใช้เท้าเล่นบอลได้อย่างยอดเยี่ยม

30 ปีผ่านไป แม้จะมีผู้รักษาประตูเก่งๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ “สกอร์เปี้ยน คิก” ของ เรเน่ ฮิกิต้า ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์, ความกล้าหาญ และความบ้าบิ่นที่ทำให้ฟุตบอลเป็นกีฬาที่สวยงามและน่าจดจำมาจนถึงทุกวันนี้