7msport

OFFICIAL! แมนฯ ซิตี้ คว้า “ดอนนารุมม่า” เฝ้าเสา ส่ง “เอแดร์ซอน” ปิดตำนานซบเฟเนร์บาห์เช่

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สร้างความสั่นสะเทือนให้กับตลาดซื้อขายนักเตะอีกครั้ง ด้วยการประกาศคว้าตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลีจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนั้นก็ได้ปล่อยตัว เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารมือหนึ่งคนสำคัญไปให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ ยักษ์ใหญ่แห่งลีกตุรกี ถือเป็นการปิดฉากยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ของนายด่านชาวบราซิลในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า “เรือใบสีฟ้า” ตกลงจ่ายค่าตัว 26 ล้านปอนด์สำหรับ ดอนนารุมม่า วัย 26 ปี ซึ่งเซ็นสัญญายาว 5 ปี พร้อมออปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี การย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขากลายเป็นส่วนเกินในทีม เปแอสเช หลังการมาถึงของ ลูคัส เชวาลิเยร์

“การได้เซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นช่วงเวลาที่พิเศษและน่าภาคภูมิใจสำหรับผม” ดอนนารุมม่ากล่าว “ผมกำลังจะได้ร่วมทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับโลก และมีผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นี่คือสโมสรที่ผู้เล่นทุกคนในโลกใฝ่ฝันที่จะเข้าร่วม”

ขณะเดียวกัน การอำลาของ เอแดร์ซอน วัย 32 ปี ถือเป็นการสิ้นสุดยุคทองอย่างแท้จริง เขาย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์จากเบนฟิก้าในปี 2017 และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และเป็นส่วนสำคัญของทีมชุดประวัติศาสตร์คว้าเทรเบิลแชมป์ในฤดูกาล 2022-23 โดยเฟเนร์บาห์เช่ตกลงจ่ายค่าตัว 12.1 ล้านปอนด์สำหรับนายทวารจอมหนึบรายนี้

“ผมจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในสิ่งที่เราประสบความสำเร็จร่วมกัน” เอแดร์ซอน กล่าวอำลา “ภายใต้การคุมทีมของเป๊ป เราครองความยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีกและพิชิตยุโรป มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก การเล่นให้ซิตี้เป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดในชีวิตของผม และผมจะเป็นแฟนบอลของสโมสรที่แสนพิเศษแห่งนี้ตลอดไป”

นอกจากการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้รักษาประตูแล้ว แมนฯ ซิตี้ ยังได้ปล่อย มานูเอล อคานจี กองหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ไปให้กับ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาล

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ว่าเขากำลังสร้างทีมสำหรับอนาคต การมาถึงของ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดีที่สุดในโลก จะเข้ามาสร้างการแข่งขันและยกระดับทีมต่อไป ขณะที่การจากไปของ เอแดร์ซอน คือการปิดตำนานที่แฟนบอลเรือใบสีฟ้าจะจดจำไปตลอดกาล