7msport

เมื่อ ‘อเล็กซ์ มาร์เกซ’ หวังใช้สังเวียนโปรด ปิดจ็อบรองแชมป์โลก MotoGP

ท่ามกลางความกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นในการต่อสู้เพื่อตำแหน่งรองแชมป์โลก MotoGP 2025 ดูเหมือนว่า “โชคชะตา” กำลังจะนำพา อเล็กซ์ มาร์เกซ มาสู่สังเวียนที่เขาอาจจะต้องการมากที่สุดในเวลานี้… เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย สนามที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันยอดเยี่ยม และอาจเป็นเวทีที่เขาจะได้ “ปิดจ็อบ” เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา

ณ วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2025 หลังจากผ่านสุดสัปดาห์อันยากลำบากที่ ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ซึ่งทำให้ช่องว่างคะแนนระหว่างเขากับอันดับ 3 อย่าง มาร์โก เบซเซคคี่ ลดลงเหลือเพียง 97 คะแนน (โดยเหลือคะแนนให้เก็บอีก 111 คะแนน) ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่ อเล็กซ์ ว่าเขาจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่บีบคั้นนี้ได้อย่างไร และสถิติผลงานย้อนหลังของเขาที่ เซปัง ก็ได้มอบ “ความหวัง” ครั้งสำคัญให้กับทีม Gresini Racing และแฟนๆ ของเขา

การเดินทางจากฝันร้าย สู่ความรุ่งโรจน์ที่ เซปัง:

  • 2022 (LCR Honda): อันดับ 17 – ปีสุดท้ายอันแสนยากลำบากกับ ฮอนด้า เซปังคือหนึ่งในสนามที่ตอกย้ำถึงฟอร์มอันย่ำแย่ของเขาในเวลานั้น
  • 2023 (Gresini Ducati – ปีแรก): อันดับ 1 (Sprint Race) / อันดับ 2 (Main Race) – การย้ายมาสู่ Gresini และรถแข่ง Ducati ได้ “ปลดปล่อย” ศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมา เซปังกลายเป็นเวทีแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว เขาคว้าชัยชนะครั้งแรกใน Sprint Race และตามด้วยการคว้าอันดับ 2 ในเรซหลัก โชว์ฟอร์มสุดแข็งแกร่งตลอดสุดสัปดาห์
  • 2024 (Gresini Ducati): อันดับ 4 (Sprint Race) / อันดับ 4 (Main Race) – แม้จะไม่สามารถขึ้นโพเดี้ยมได้ แต่การจบอันดับ 4 ทั้งสองเรซ คือเครื่องยืนยันถึง “ความคงเส้นคงวา” และการที่สนามแห่งนี้เข้ากับสไตล์การขับขี่ของเขาและรถ Ducati GP23 (ในขณะนั้น) ได้เป็นอย่างดี

สถิติเหล่านี้บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า เซปัง คือ “สังเวียนโปรด” ของ อเล็กซ์ มาร์เกซ อย่างแท้จริง มันคือสนามที่เขาค้นพบ “จุดเปลี่ยน” ครั้งสำคัญในอาชีพ และเป็นสถานที่ที่เขาสามารถรีดประสิทธิภาพสูงสุดของตัวเองและรถแข่งออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้น การกลับมาเยือน เซปัง ในสุดสัปดาห์นี้ (24-26 ตุลาคม 2025) จึงเป็นมากกว่าแค่การแข่งขันสนามต่อไป แต่มันคือ “โอกาสทอง” ที่เขาจะได้กลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุด, สลัดความกดดันจากสนามที่แล้ว และที่สำคัญที่สุดคือ การเก็บคะแนนสำคัญเพื่อการันตีตำแหน่ง “รองแชมป์โลก” สมัยแรกในรุ่น MotoGP ให้ได้สำเร็จ ตามรอยพี่ชายผู้เป็นแชมป์โลกในปีนี้