อเล็กซ์ มาร์เกซ ได้เริ่มต้นภารกิจไล่ล่าตำแหน่งรองแชมป์โลกที่สังเวียน ฟิลลิป ไอส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งและทัศนคติที่สุขุมเกินใคร เขาสามารถกดเวลาทะลุเข้าสู่รอบ Q2 ได้โดยอัตโนมัติด้วยอันดับที่ 5 แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าผลงานในสนาม คือ “บทวิเคราะห์” อันเฉียบคมที่เขามีต่อคู่แข่งคนสำคัญ
หลังจากผ่านสองสนามสุดหินในเอเชียอย่างญี่ปุ่นและอินโดนีเซียมาได้ อเล็กซ์ก็ยอมรับว่า ฟิลลิป ไอส์แลนด์ คือสนามที่เข้ากับสไตล์ของเขามากกว่า และผลงานในวันแรกก็เป็นเครื่องยืนยันชั้นดี เขาทำเวลาเป็นอันดับ 2 ในรอบซ้อมแรก ก่อนจะจบวันด้วยอันดับ 5 ในรอบ Practice ซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองในบรรดานักบิดดูคาติทั้งหมด (ตามหลัง ฟาบิโอ ดิ จิอันนันโตนิโอ)
“เราทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อยู่ในกลุ่มหน้าเสมอ” อเล็กซ์กล่าวหลังจบวัน “ในแง่ของเรซเพซ เราเข้าใกล้คู่แข่งมากกว่าเพซในรอบเดียวเสียอีก ผมคิดว่า เป็คโก้ ก็ดูดี และ ‘ดิจจา’ ก็มีเพซที่ดีมากๆ อาจจะดีที่สุดในกลุ่มเราเลยด้วยซ้ำ”
อย่างไรก็ตาม ชายที่ขโมยซีนไปทั้งหมดในวันแรกคือ มาร์โก เบซเซคคี่ ที่ระเบิดฟอร์มเทพ กดเวลาทำลายสถิติสนามไปกว่าครึ่งวินาที และทำให้รถแข่ง Aprilia กลายเป็นตัวเต็งขึ้นมาทันที แต่สำหรับอเล็กซ์แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย
“Aprilia แข็งแกร่งมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว” เขาวิเคราะห์อย่างน่าสนใจ “แต่พวกเขาต้องจ่ายราคาให้กับการเปลี่ยนตัวนักบิดทั้งสองคน”
“พวกเขาอาจจะลำบากหน่อยในรอบควอลิฟาย แต่พอเบซเซคคี่จับทางได้ เขาก็เร็วมาก”
นี่คือมุมมองที่ลึกซึ้งและตอกย้ำถึงความซับซ้อนของการแข่งขันในระดับ MotoGP มันไม่ใช่แค่เรื่องของรถแข่ง แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของนักบิดด้วย และตอนนี้ดูเหมือนว่าจิ๊กซอว์ของ Aprilia จะเริ่มลงล็อกแล้ว
อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์ก็ยังคงมุ่งมั่นกับการทำงานของตัวเอง “ในช่วงบ่ายเราเจอปัญหาเล็กน้อยกับยางซอฟท์หลัง เราจะพยายามก้าวไปข้างหน้าอีกสเต็ป” เขากล่าว พร้อมกับปัดความกังวลเรื่องสภาพอากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ว่า “ลมมันก็เท่ากันสำหรับทุกคน”
นี่คือทัศนคติของชายผู้ที่กำลังจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพของเขา… สุขุม, มีสมาธิ และมีสายตาที่มองทะลุปรุโปร่งไปถึงคู่แข่งในสนาม