7msport

มุมมองที่เปลี่ยนไป: เมื่อ “อเล็กซ์ มาร์เกซ” ค้นพบ ‘เกียรติยศ’ ในความพ่ายแพ้ต่อพี่ชาย

ฤดูกาล MotoGP 2025 จะถูกจารึกไว้ว่าเป็นปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพของ อเล็กซ์ มาร์เกซ นับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่รุ่นพรีเมียร์คลาสในปี 2020 นักบิดสังกัด BK8 Gresini Racing ผู้นี้ได้แสดงศักยภาพระดับแชมป์โลกออกมาอย่างต่อเนื่อง เขากลายเป็นเงาตามตัวของ มาร์ค มาร์เกซ พี่ชายแท้ๆ ของเขาที่ครองความยิ่งใหญ่กับทีมโรงงานดูคาติ

ด้วยผลงาน 10 โพเดี้ยม และ 2 ชัยชนะ อเล็กซ์ในวัย 29 ปี สามารถการันตีตำแหน่งรองแชมป์โลกได้อย่างเกือบจะแน่นอน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่ง เมื่อเขาสามารถเอาชนะฟอร์มของ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า เพื่อนร่วมทีมของพี่ชายได้อย่างหมดจด

ทว่า… แม้จะทำผลงานได้ดีที่สุดในชีวิต มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้ง “เอเลี่ยน” ที่ชื่อ มาร์ค มาร์เกซ ได้

มาร์ค มาร์เกซ ในวัย 32 ปี ได้สร้างปรากฏการณ์ครองความยิ่งใหญ่อย่างสมบูรณ์แบบในฤดูกาลแรกของเขากับดูคาติ เขาคว้าแชมป์โลกไปครองได้ตั้งแต่ที่ประเทศญี่ปุ่น และอุบัติเหตุในสนามล่าสุดที่มันดาลิกาก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อบัลลังก์ของเขาเลยแม้แต่น้อย

ในสายตาของอเล็กซ์ เขาตระหนักดีถึงความจริงข้อนี้ และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่ว่าเขาจะทำได้สมบูรณ์แบบแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะพี่ชายของเขาได้ในปีนี้

“ผมหมายถึง ผมคิดว่าแค่การทำให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะแข่งขันกับมาร์คหรือคว้าแชมป์ได้” อเล็กซ์กล่าวกับ Crash.net “แม้เขาจะมีความผิดพลาดที่เนเธอร์แลนด์และเบอร์โน แต่เขาก็ทำลายสถิติคะแนนและสถิติอื่นๆ ทั้งหมด”

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการยอมรับในความพ่ายแพ้นี้เอง เราก็ได้เห็น “ทัศนคติที่เปลี่ยนไป” ของอเล็กซ์ มาร์เกซ เขาไม่ได้จมอยู่กับความผิดหวัง แต่กลับค้นพบมุมมองใหม่ที่น่าชื่นชม

“ผมไม่รู้สึกว่าผมแพ้พี่ชายของผมนะ มันไม่ใช่แบบนั้น” อเล็กซ์อธิบาย

“เมื่อคุณแพ้ให้กับหนึ่งในนักบิดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ มันตรงกันข้ามเลย มันเหมือนเป็นเกียรติที่ได้ต่อสู้กับเขา”

คำพูดนี้ได้เปลี่ยนสถานะของเขาจาก “ผู้แพ้” ให้กลายเป็น “คู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีที่สุด” ของตำนานที่ยังมีลมหายใจ ฤดูกาล 2025 อาจไม่ได้จบลงด้วยตำแหน่งแชมป์โลกสำหรับอเล็กซ์ มาร์เกซ แต่มันได้มอบวุฒิภาวะและความเข้าใจในเกมการแข่งขันที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม เขาสามารถยืดอกได้อย่างภาคภูมิใจในฐานะชายผู้ที่เข้าใกล้ “ที่สุดของประวัติศาสตร์” มากกว่าใคร และค้นพบว่าบางครั้ง… เกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็ไม่ได้มาพร้อมกับถ้วยรางวัลเสมอไป