7msport

ตำนานพิตบูลล์ที่บาร์เน็ต: เรื่องเล่าสุดพิลึกของ เอ็ดการ์ ดาวิดส์ กับเสื้อเบอร์ 1, ไม่รับเงินเดือน และโดดรถบัสทีม

ลองจินตนาการภาพ: ทีมอันดับสุดท้ายของลีกฟุตบอลอาชีพระดับ 4 ของอังกฤษ ที่ยังไม่ชนะใครเลย และมีผู้จัดการทีมอยู่แล้ว จู่ๆ ก็ได้ตำนานนักเตะเจ้าของฉายา “พิตบูลล์” ผู้คว้าแชมป์แชมเปียนส์ ลีก และผ่านการเล่นให้กับ ยูเวนตุส, บาร์เซโลน่า และ อินเตอร์ มิลาน เข้ามาเป็นผู้เล่น-ผู้จัดการทีมร่วม… นี่ไม่ใช่พล็อตหนัง แต่มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 2012 กับสโมสรบาร์เน็ต

เรื่องราวของ เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ที่บาร์เน็ต คือหนึ่งในหน้าที่แปลกประหลาดและน่าจดจำที่สุดของวงการฟุตบอลสมัยใหม่ เป็นตำนานที่เต็มไปด้วยความแตกต่างอย่างสุดขั้ว: เขาใส่เสื้อเบอร์ 1 ทั้งที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตู, โดดการเดินทางไปแข่งเกมเยือนบางนัด แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่รับเงินเดือนเลยแม้แต่เพนนีเดียวตลอด 15 เดือนที่นั่น

ทำไมต้องบาร์เน็ต? คำถามแรกที่ทุกคนสงสัยคือ ทำไม? ทำไมนักเตะระดับโลกที่ยังคงฟิตเปรี๊ยะถึงเลือกมาอยู่กับทีมหนีตกชั้น คำตอบคือ ดาวิดส์อาศัยอยู่ในลอนดอนและกำลังเรียนไลเซนส์โค้ช ซึ่งต้องการประสบการณ์คุมทีมอาชีพ ประธานสโมสรบาร์เน็ตจึงยื่นโอกาสที่ “วิน-วิน” ทั้งสองฝ่ายให้ และที่น่าทึ่งที่สุดคือ ดาวิดส์ “ไม่ได้ร้องขอเงินเลย”

เจค ไฮด์ กองหน้าของทีมในตอนนั้นเล่าว่า “มันเหนือจริงมาก ตอนเช้ามีแค่ข่าวลือ พวกเรายังหัวเราะกันอยู่เลยว่า ‘ไม่มีทางหรอก เขาคงแค่มาเยี่ยมชม’ แต่แล้วเขาก็มาจริงๆ”

“เรียกผมว่า ‘มิสเตอร์'” ดาวิดส์เริ่มต้นบทบาทด้วยการสร้างอำนาจทันที เขาประกาศกร้าวในห้องแต่งตัวว่าห้ามใครเรียกเขาว่า ‘เอ็ดการ์’ หรือ ‘ดาวิดส์’ แต่ให้เรียกว่า ‘Sir’ (ท่าน) หรือ ‘Mister’ (นายท่าน) ซึ่งเป็นคำเรียกที่ให้ความเคารพแบบในอิตาลี หากใครฝ่าฝืนจะถูกปรับเงิน “ตอนแรกพวกเราขำนึกว่าล้อเล่น แต่เขาเอาจริงมาก” ไฮด์กล่าว “ในสนามซ้อมวันแรก ไม่มีใครกล้าตะโกนขอ Kอลจากเขาเลย เพราะไม่รู้จะเรียกยังไง”

โศกนาฏกรรม 51 แต้ม แม้จะเริ่มต้นด้วยความแปลก แต่ฝีเท้าของดาวิดส์ยังคงเป็นของจริง เขาพาทีมที่จมบ๊วยเก็บแต้มเป็นว่าเล่น จนสุดท้าย บาร์เน็ตจบฤดูกาลด้วยการมี 51 คะแนน ซึ่งในประวัติศาสตร์ของลีกทู ไม่เคยมีทีมไหนได้แต้มสูงขนาดนี้แล้วต้องตกชั้นเลยแม้แต่ทีมเดียว! พวกเขากลายเป็นทีมแรกและทีมเดียวที่สร้างสถิติอันน่าเศร้านี้ขึ้นมา

ความวุ่นวายในลีกสมัครเล่น การตกชั้นสู่ลีกคอนเฟอเรนซ์ (กึ่งอาชีพ) คือจุดเริ่มต้นของความโกลาหลที่แท้จริง ดาวิดส์ซึ่งไม่คุ้นเคยกับฟุตบอลระดับนี้ เริ่มแสดงความแปลกของเขาออกมาอย่างเต็มที่

  • เสื้อเบอร์ 1: เขาตัดสินใจใส่เสื้อหมายเลข 1 ด้วยตัวเอง ซึ่งปกติเป็นเบอร์ของผู้รักษาประตู การกระทำนี้เหมือนการ “ล่อเป้ากระทิง” ให้คู่ต่อสู้ในสนามระดับนี้
  • ใบแดงเป็นว่าเล่น: ดาวิดส์ถูกไล่ออกถึง 3 ครั้งในฤดูกาลเดียว (รวมเป็น 5 ครั้งกับสโมสร) เพราะเขาถูกคู่แข่งยั่วยุและเล่นงานอย่างหนักในทุกๆ เกม
  • โดดเกมเยือน: เรื่องที่พีกที่สุดคือ ดาวิดส์จะไม่เดินทางไปกับทีมในเกมเยือนที่ต้องใช้เวลานาน มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งเขาขึ้นมานั่งบนรถบัสทีมแล้ว ก่อนจะพบว่าต้องเดินทาง 5 ชั่วโมง เขาจึงปิดแล็ปท็อปแล้วเดินลงจากรถไปทันที

บทสรุปของตำนาน สุดท้ายเรื่องราวก็ต้องจบลง เมื่อความมุ่งมั่นของเขาเริ่มลดน้อยลง สโมสรและดาวิดส์จึงแยกทางกันด้วยดี แม้จะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่ประธานสโมสรยังคงมองย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นด้วยความรู้สึกดีๆ “ผมมองว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ผมนับถือสิ่งที่เขาทำ เขาเข้ามาโดยไม่ขออะไรเลย ทำงานหนัก และโชคร้ายไปหน่อยในตอนท้าย”

เรื่องราวของ เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ที่บาร์เน็ต จึงเป็นเหมือนนิทานสอนใจว่า แม้คุณจะเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ฟุตบอลก็ยังคงมีความคาดเดาไม่ได้และเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดเสมอ และมันจะถูกจดจำในฐานะหนึ่งใน “การแต่งตั้งผู้จัดการทีมที่พิลึกที่สุด” ตลอดกาล