7msport

เวสต์แฮม พร้อมโละ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ หลังฟอร์มตกหนัก !!

ช่วงเวลาของ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ดูเหมือนกำลังจะสิ้นสุดลงหลังจากผ่านไปเพียงสองปี กองกลางวัย 30 ปีรายนี้ถูกตัดชื่อออกจากทีมในเกมพบ เอฟเวอร์ตัน โดยมีการพูดคุยกับ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต หลังเกมดังกล่าว

เวสต์แฮม เปิดกว้างสำหรับข้อเสนอหากมีสโมสรสนใจ วอร์ด-พราวส์ หลังจากที่เขาออกสตาร์ตฤดูกาลได้อย่างน่าผิดหวัง และอาจเป็นหนึ่งในนักเตะกลุ่มแรกที่ถูกปล่อยตัวช่วงตลาดเดือนมกราคม

แดนกลางของ เวสต์แฮม ดูมีพลังและสมดุลขึ้นเมื่อไม่มีเขา โดยได้ ซูงูตู มากัสซ่า และ มาเตอุส แฟร์นานเดส ขึ้นมารับผิดชอบแทน


เวสต์แฮม อาจประหยัดได้อย่างน้อย 3 ล้านปอนด์จากการปล่อย เจมส์ วอร์ด-พราวส์

วอร์ด-พราวส์ เคยร่วมงานกับ นูโน่ มาก่อนตอนอยู่กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในครึ่งแรกของฤดูกาล 2024-25

อย่างไรก็ตามเส้นทางไม่เป็นไปตามคาด เมื่อเขาลงสนามได้เพียง 9 นัดก่อนสัญญายืมตัวถูกยกเลิกในเดือนกุมภาพันธ์

ในการเจอกับ เอฟเวอร์ตัน เขาถูกแทนที่โดย มากัสซ่า ดาวรุ่งวัย 21 ปี ที่โชว์ศักยภาพว่าสามารถรับมือกับเกมพรีเมียร์ลีกได้ดี

หาก เวสต์แฮม สามารถปล่อย วอร์ด-พราวส์ ออกไปแบบถาวรในเดือนมกราคม สโมสรอาจประหยัดเงินได้สูงสุดถึง 9 ล้านปอนด์

แต่โอกาสที่จะย้ายถาวรนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะเจ้าตัวรับค่าเหนื่อยถึงสัปดาห์ละ 120,000 ปอนด์ที่ ลอนดอน สเตเดียม และคงไม่มีสโมสรไหนยอมจ่ายในระดับเดียวกัน

แม้ว่า วอร์ด-พราวส์ เปิดใจพร้อมกลับไปที่ เซาแธมป์ตัน แต่ “นักบุญ” คงทำได้เพียงข้อเสนอยืมตัวเท่านั้น

หากดีลยืมตัวเกิดขึ้นในเดือนมกราคมจริง เวสต์แฮม ก็ยังสามารถประหยัดเงินค่าเหนื่อยได้ราว 3 ล้านปอนด์จนจบฤดูกาล หากทีมที่ยืมยอมจ่ายค่าเหนื่อยแทน


เวสต์แฮม ต้องเลิกพลาดจากกลยุทธ์เสริมทัพที่ผิดพลาด

การซื้อผู้เล่นที่เลยช่วงพีคไปแล้วคือความผิดพลาดที่สร้างปัญหาให้ เวสต์แฮม ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ซัมเมอร์ปี 2024 “ขุนค้อน” ตัดสินใจผิดมหันต์ด้วยการคว้าตัว นิคลาส ฟึลครุก ในวัยโรยราด้วยค่าตัวเกิน 25 ล้านปอนด์

ก่อนหน้านั้นก็ทุ่มถึง 30 ล้านปอนด์ดึง วอร์ด-พราวส์ ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน

ทว่าซัมเมอร์ล่าสุดพวกเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนแนวทาง ด้วยการคว้าแข้งอนาคตอย่าง แฟร์นานเดส และ มากัสซ่า วัย 21 ปี ซึ่งควรยึดเป็นแนวทางเสริมทัพต่อไป

แม้ คาเรน เบรดี และ เดวิด ซัลลิแวน จะโทษกฎด้านกำไรและความยั่งยืน (Profit and Sustainability) แต่แท้จริงแล้วคือการตัดสินใจผิดพลาดของพวกเขาที่ทำให้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้