ในค่ำคืนนี้ (วันอังคารที่ 30 กันยายน 2025) โชเซ่ มูรินโญ่ จะนำ เบนฟิก้า กลับมาเยือนถิ่นเก่า สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเชลซีอีกครั้งในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่เบื้องหลังการคัมแบ็กสู่เวทีระดับสูงของกุนซือระดับตำนานผู้นี้ มีเรื่องราวของการเสียสละครั้งสำคัญซ่อนอยู่ เมื่อมีการเปิดเผยว่าเขายอม “ลดค่าเหนื่อยมหาศาล” เพื่อกลับมารับงานที่สโมสรแห่งนี้
ค่าเหนื่อยที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ยุคแรกที่โปรตุเกส
รุย คอสต้า ประธานสโมสรเบนฟิก้าและอดีตตำนานทีมชาติโปรตุเกส ได้เปิดเผยผ่านสถานีโทรทัศน์ TVI/CNN ว่าค่าเหนื่อยของมูรินโญ่ในสัญญา 2 ปีนั้น อยู่ในระดับที่ไม่สูงไปกว่า โรเจอร์ ชมิดท์ อดีตกุนซือคนก่อนหน้า ซึ่งคาดการณ์กันว่าอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านปอนด์ตลอดสัญญา (หรือราว 3 ล้านปอนด์ต่อปี)
แต่ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดคือคำพูดของ รุย คอสต้า ที่ว่า “นี่คือค่าเหนื่อยที่น้อยที่สุดที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้รับนับตั้งแต่ออกจากโปรตุเกสไป (เพื่อคุมทีมชั้นนำในต่างแดน)”
“ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของเขาที่อยากจะกลับมาเบนฟิก้า คือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผมเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่าเขาคือโค้ชในอุดมคติสำหรับเรา” รุย คอสต้า กล่าว
ครั้งที่สองในอาชีพที่ยอม “ลดค่าตัว”
การยอมลดค่าเหนื่อยเพื่อรับงานที่ตนเองปรารถนา ถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในอาชีพของมูรินโญ่ และนี่นับเป็นเพียง “ครั้งที่สอง” เท่านั้นที่เขาทำเช่นนี้
ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2021 ตอนที่เขายอมลดค่าเหนื่อยของตัวเองลงถึง 3.5 ล้านปอนด์ต่อปี เพื่ออำลา ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ให้เขาราว 10 ล้านปอนด์ต่อปี ไปรับงานคุมทีม โรม่า ที่ให้ค่าเหนื่อยราว 6.5 ล้านปอนด์ต่อปี
การตัดสินใจยอมลดค่าเหนื่อยอีกครั้งเพื่อกลับมายังเบนฟิก้า สโมสรแรกที่ให้โอกาสเขาเริ่มต้นอาชีพผู้จัดการทีมเมื่อ 25 ปีก่อน จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าการกลับมาครั้งนี้ขับเคลื่อนด้วย “แพสชั่น” และความท้าทาย มากกว่าเรื่องของตัวเงิน
การกลับคืนสู่ “เดอะ บริดจ์”
ในคืนนี้ มูรินโญ่จะได้กลับมายังสนามที่สร้างชื่อให้เขากลายเป็น “เดอะ สเปเชียล วัน” อีกครั้ง และคาดว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนบอลเชลซี แม้ว่าเขาจะเคยไปคุมทีมคู่แข่งร่วมลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส มาแล้วก็ตาม ซึ่งการกลับมาครั้งนี้จะยิ่งมีความหมายมากขึ้น เมื่อทุกคนได้รับรู้ถึงเบื้องหลังการเสียสละเพื่อกลับสู่เส้นทางที่เขารักอีกครั้ง