อลัน เชียเรอร์ มองว่า เอ็นโซ่ มาเรสก้า กำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักกับ เชลซี หลังพ่ายคาบ้าน 1-3 ต่อ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยแม้ว่า เอ็นโซ่ แฟร์นันเดซ จะยิงประตูขึ้นนำให้เจ้าถิ่นตั้งแต่ต้นเกม แต่สถานการณ์กลับพลิกผันหลังพักครึ่ง
จังหวะสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามหลังทำฟาวล์ใส่ ดีเอโก้ โกเมซ ส่งผลให้เกมเปลี่ยนทันที จากนั้น แดนนี่ เวลเบ็ค ยิงตีเสมอ ก่อนที่ แม็กซิม เดอ คอยเปอร์ จะซัดให้ทีมเยือนพลิกนำในกรุงลอนดอน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เวลเบ็ค ยิงประตูที่สองของตัวเอง ปิดท้ายบ่ายอันน่าผิดหวังของ สิงโตน้ำเงินคราม ความพ่ายแพ้ครั้งนี้นับเป็นการแพ้สองนัดติดต่อกัน หลังจากสัปดาห์ก่อนเพิ่งพ่ายต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เชียเรอร์ กล่าวเตือนว่า เก้าอี้กุนซือของ มาเรสก้า อาจไม่มั่นคงหากยังหยุดฟอร์มตกไม่ได้
“การคุมทีม เชลซี คุณต้องรู้ว่าความกดดันจะตามมาทันทีหากแพ้เกม – และตอนนี้พวกเขาแพ้สองนัดแล้ว” เขากล่าวกับ บีบีซี แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์
“นั่นคือกฎของผู้จัดการทีม แต่กับ เชลซี มันยิ่งชัดเจน คุณไม่สามารถแพ้ต่อเนื่องได้ และตอนนี้พวกเขาแพ้สองเกมติด สถานการณ์ก็ชัดเจนอยู่แล้ว”
หลังจบเกม มาเรสก้า ให้สัมภาษณ์ว่า
“มันเป็นเกมที่ยาก เพราะเราคุมเกมได้ ยิงได้ และน่าจะทำได้มากกว่า ไม่เสียโอกาสให้คู่แข่ง ครึ่งแรกเรามีทั้งโอกาสยิงมากมาย ครองบอล 70% ทุกอย่างดูดี แต่จากความผิดพลาดและใบแดง ทุกอย่างก็เปลี่ยนทันที ราวกับว่าเราเล่นกันสองเกม ครึ่งแรกกับครึ่งหลังหลังใบแดง”
เมื่อถูกถามว่าทีมกำลังทำให้ตัวเองลำบากกับใบแดงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งหรือไม่ เขาตอบว่า
“แน่นอน คุณไม่สามารถทำผิดพลาดซ้ำๆ ได้ โดยเฉพาะความผิดพลาดใหญ่ที่เปลี่ยนผลการแข่งขัน เราเสียใบแดงที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และวันนี้ก็อีกครั้ง”
มาเรสก้า ยังกล่าวถึงการส่ง จอช อาเชมปง ลงสนาม ทั้งที่นักเตะเพิ่งไม่สบายตลอดสัปดาห์ โดยเขาต้องยืนเซ็นเตอร์คู่กับ ยอร์เรล ฮาโต ซึ่งต่างเป็นดาวรุ่งที่ยังไม่มีประสบการณ์มากนักในพรีเมียร์ลีก การเหลือผู้เล่น 10 คนทำให้ต้องรับมือสถานการณ์ยากขึ้น
ท้ายสุด กุนซือชาวอิตาเลียนย้ำว่า สโมสรยังไม่ได้แจ้งอะไรเกี่ยวกับอนาคตของเขา
“เหมือนที่บอกไปเมื่อวาน สโมสรไม่ได้พูดอะไรกับผม ไม่มีข่าวใดๆ ทั้งสิ้น”
โปรแกรมต่อไป เชลซี จะต้องกลับมาลงสนามในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก วันอังคารนี้ โดยเปิดบ้านเจอ เบนฟิก้า ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ก่อนที่จะเปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ พบ ลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกในสุดสัปดาห์ถัดมา