สโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2025 สั่งปลด เกรแฮม พอตเตอร์ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเข้ามาคุมทีมได้เพียง 8 เดือนเท่านั้น โดยมีสถิติชนะเพียง 6 จาก 25 นัดที่ลงคุมทีมในทุกรายการ
ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้บอร์ดบริหารของ “ขุนค้อน” หมดความอดทน คือความพ่ายแพ้คาบ้านต่อ คริสตัล พาเลซ 1-2 ในเกมลีกล่าสุด ซึ่งส่งผลให้ทีมจมอยู่ในอันดับที่ 19 ของตารางพรีเมียร์ลีก มีเพียง 3 คะแนนจากการลงเล่น 5 นัด
แถลงการณ์จากสโมสรและสถิติที่น่าผิดหวัง
แถลงการณ์จากสโมสรระบุว่า “ผลการแข่งขันและฟอร์มการเล่นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงต้นฤดูกาล 2025-26 ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และคณะกรรมการบริหารเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยยกระดับอันดับของทีมในพรีเมียร์ลีกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“สโมสรขอยืนยันว่าผู้ช่วยโค้ช บรูโน่ ซัลตอร์, โค้ชทีมชุดใหญ่ บิลลี่ รีด และ นาร์ซิส เปลาช, โค้ชผู้รักษาประตู แคสเปอร์ อันเคอร์เกรน และ ลินัส คันโดลิน ได้ออกจากสโมสรไปพร้อมกันโดยมีผลทันที”
พอตเตอร์ เข้ามารับตำแหน่งแทนที่ ฆูเลน โลเปเตกี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในขณะที่ทีมรั้งอันดับ 14 ของตาราง แต่เขาก็ไม่สามารถพาทีมทำอันดับได้ดีขึ้น โดยจบฤดูกาล 2024-25 ในอันดับที่ 14 เช่นเดิม และเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ได้อย่างย่ำแย่ เสียไปแล้วถึง 13 ประตูในลีก และยิงได้เพียง 5 ประตูเท่านั้น
เสียงโห่จากแฟนบอลและคำพูดสุดท้ายของพอตเตอร์
การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากแฟนบอลที่ไม่พอใจทั้งผลงานในสนามและแนวทางการบริหารของเจ้าของสโมสร โดยก่อนหน้านี้บอร์ดที่ปรึกษาของแฟนบอลได้ยื่นจดหมาย “ไม่ไว้วางใจ” ต่อสโมสร และในเกมล่าสุดกับพาเลซ แฟนบอลเจ้าบ้านยังพร้อมใจกันตะโกนว่า “คุณไม่รู้หรือไงว่ากำลังทำอะไรอยู่” และ “พรุ่งนี้เช้าแกก็โดนไล่ออกแล้ว” ใส่พอตเตอร์
“ผมเข้าใจดีว่าเรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก” พอตเตอร์กล่าวหลังจบเกมกับพาเลซ “เราต้องการทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ และในตอนนี้เรายังทำไม่ได้”
ใครจะมาแทน? “นูโน่-บิลิช” เต็งหนึ่ง
สโมสรได้ยืนยันว่ากระบวนการสรรหาผู้จัดการทีมคนใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยมีรายงานว่าบอร์ดบริหารได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ อดีตกุนซือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ สลาเวน บิลิช อดีตผู้จัดการทีมของเวสต์แฮมเอง
การอำลาทีมของพอตเตอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความล้มเหลวของเขาในการคุมทีมใหญ่ ต่อจากช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 31 เกมกับเชลซีก่อนจะถูกปลดเมื่อเดือนเมษายน 2023 และทำให้เส้นทางอาชีพของกุนซือชาวอังกฤษรายนี้ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง