ผลงานแดนกลางของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดซีซันนี้ได้ไม่ดีนัก หลังมีการเปลี่ยนแปลงหลายตำแหน่งในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
แม้ว่า เจมส์ วอร์ด-เพราส์ จะยังคงได้รับโอกาสลงสนามจาก เกรแฮม พอตเตอร์ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ถูกวิจารณ์ถึงการเล่นที่ขาดความดุดันจนทำให้แฟนบอลไม่พอใจ.
ความพ่ายแพ้ต่อ คริสตัล พาเลซ 2-1 แสดงให้เห็นว่าเกมรับแดนกลางของทีมยังอ่อนเกินไป และเกิดข้อสงสัยว่าทำไมสโมสรถึงไม่เซ็นสัญญากับกองกลางตัวใหม่เพิ่มในช่วงตลาดซื้อขายที่ผ่านมา.
หนึ่งในเป้าหมายที่ถูกเชื่อมโยงคือ จาวี ซิสเซ่ มิดฟิลด์ของ แรนส์ แต่ท้ายที่สุด “ขุนค้อน” เลือกเบนเข็มไปหาทางเลือกอื่น.
เวสต์แฮมเคยทุ่ม 22 ล้านปอนด์หวังปิดดีล ซิสเซ่
การมาของ มาเธอุส แฟร์นานเดส ที่ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน มาด้วยค่าตัว 38 ล้านปอนด์ ทำให้แดนกลางของ เวสต์แฮม มีมิติขึ้นเล็กน้อย.
ตรงกันข้ามกับ ซูงกูตู มากัสซ่า ที่ยังไม่สามารถปรับตัวได้ดีนัก หลังย้ายมาจาก โมนาโก ด้วยราคา 14 ล้านปอนด์ และหลายฝ่ายมองว่าแข้งรายนี้ควรได้รับโอกาสลงสนามมากกว่าที่เป็นอยู่.
รายงานจาก Le 10 Sport เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 กันยายน ว่า เวสต์แฮม ได้ยื่นข้อเสนอ 19 ล้านปอนด์บวกโบนัส 3 ล้าน เพื่อคว้า ซิสเซ่ แต่ถูก แรนส์ ปฏิเสธ เพราะต้องการสร้างทีมโดยมีดาวรุ่งวัย 18 ปีรายนี้เป็นแกนหลัก.
ความพยายามครั้งนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า เวสต์แฮม กำลังเปลี่ยนแนวทางการเสริมทัพ.
กลยุทธ์ใหม่ของ “ขุนค้อน” มุ่งสร้างทีมด้วยแข้งหนุ่มไฟแรง
ตลาดซัมเมอร์รอบล่าสุดของ เวสต์แฮม ถือว่ามีทั้งความผิดหวังและความสำเร็จปะปนกันไป แต่สิ่งที่ชัดเจนคือพวกเขาเริ่มหันมาเน้นการดึงนักเตะอายุน้อยเข้าสู่ทีม.
ตัวอย่างชัดเจนคือการคว้าตัว เอล ฮัดจิ มาลิก ดิยุฟ วัย 20 ปี ร่วมกับสองแข้งอายุ 21 ปีอย่าง มากัสซ่า และ แฟร์นานเดส เข้ามาสู่ถิ่นลอนดอน.
ที่ผ่านมา “ขุนค้อน” มักพึ่งพาผู้เล่นอายุมาก และในฤดูกาลก่อนก็เซ็น นิกลาส ฟึลครุก วัย 32 ปี ที่ไม่สามารถสร้างผลงานได้ตามมาตรฐานพรีเมียร์ลีก จนทำให้ทีมต้องปรับทิศทางใหม่อย่างจริงจัง.