วงการ MotoGP สั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดชาวสเปนสังกัดทีม Gresini Racing ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจแบบหมดเปลือกถึงเส้นทางอาชีพที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เผยเบื้องหลังสุดเจ็บปวดที่เคยถูกทีมยักษ์ใหญ่อย่างยามาฮ่าและฮอนด้าปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย จนเกือบทำให้เขาต้องหลุดออกจากเวทีการแข่งขันระดับโลกไป
น้องชายของแชมป์โลก 8 สมัย ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่สิ่งที่ทำให้เขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้คือความทุ่มเทและการเสียสละอย่างไม่สิ้นสุด
“ผมยอมรับเสมอว่าตอนเด็กๆ ผมไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรมากมาย มีนักแข่งคนอื่นที่เก่งกว่าผมเยอะ แต่พวกเขาไม่รู้จักการเสียสละ แต่ผมทำ” อเล็กซ์ กล่าว “ในขณะที่คนอื่นไปปาร์ตี้วันเกิด ผมเลือกที่จะไปสนามแข่ง พรสวรรค์อย่างเดียวมันไปไม่รอดหรอก พรสวรรค์ของผมคือการทำงานหนัก และมันทำให้ผมเป็นแชมป์โลกได้”
หนึ่งในประเด็นที่ช็อกวงการที่สุดคือการที่เขาออกมายืนยันข่าวลือหนาหูในอดีต เกี่ยวกับการถูก Yamaha ใช้อำนาจ “วีโต้” (Veto) หรือสิทธิยับยั้ง ไม่ให้เขาได้เซ็นสัญญากับทีมรองอย่าง Petronas Yamaha (ปัจจุบันคือ RNF) ในขณะที่เขายังโลดแล่นอยู่ในรุ่น Moto2
“เรื่องจริงคือผมเซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ยามาฮ่าไม่เคยให้ไฟเขียว สัญญานั้นมีอายุแค่ 5 วัน” อเล็กซ์ เผย “พวกเขาไม่ได้พูดกับผมตรงๆ แต่โดยนัยแล้วมันชัดเจน: ผมต้องจ่ายราคาให้กับความขัดแย้งระหว่าง วาเลนติโน รอสซี่ กับ มาร์ค (มาร์เกซ) มันไม่ใช่ความผิดของผมเลย แต่มันก็เป็นอดีตไปแล้ว”
แต่ฝันร้ายยังไม่จบสิ้น เมื่อเขาเล่าถึงช่วงเวลาที่กดดันที่สุดในชีวิตกับ Honda ซึ่งเขาบรรยายว่ามันคือ “ความวิตกกังวลล้วนๆ”
“ในปี 2022 ผมพบว่าตัวเองกำลังจะไม่มีทีมสำหรับฤดูกาล 2023 ไม่มีที่ว่างใน MotoGP อีกต่อไป มันไม่ใช่ความทุกข์ทรมาน แต่มันคือความวิตกกังวลอย่างแท้จริง ผมแค่ต้องการที่สักแห่งที่จะให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเอง”
และแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็มาถึงในชื่อของ Gresini Racing ทีมอิสระที่ใช้รถ Ducati ซึ่งกลายเป็นผู้ที่หยิบยื่นโอกาสและช่วยชีวิตนักบิดผู้นี้ไว้ การตัดสินใจครั้งนั้นเกิดขึ้นจากความสิ้นหวังและความศรัทธาล้วนๆ
“ตอนที่ประตูของ Gresini เปิดออก ผมเซ็นสัญญาทันที! ผมไม่ได้ดูอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนหรือเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ผมไม่สนใจอะไรเลย ผมแค่ต้องการรถแข่งคันนั้น” อเล็กซ์ กล่าวอย่างหนักแน่น “มาร์ค (พี่ชาย) แค่พูดกับผมว่า ‘นายกล้ามาก’ ผมต้องการพิสูจน์ให้ตัวเองเห็นว่าผมยังคงเป็นแชมป์โลก 2 สมัย”
แม้จะยืนยันว่าจะภักดีกับทีมที่ช่วยชีวิตเขาไว้ แต่เขาก็ส่งสารถึงทีมอื่นๆ อย่างชัดเจนว่าอนาคตยังคงเปิดกว้าง หากเขาสามารถรักษาผลงานที่ยอดเยี่ยมไว้ได้
“ตราบใดที่ผมยังอยู่กับ Gresini ผมจะไม่มีวันคุยกับทีมอื่น แต่ผมรู้ว่าถ้าผมรักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ได้ สัญญาจากทีมอื่นจะเปิดรอในปีหน้า ผมจะไม่ต้องเดินไปเคาะประตูบ้านใครอีกแล้ว แต่ต้องระวังให้ดี เพราะแค่ 3 เรซที่ย่ำแย่ก็อาจทำให้ประตูเหล่านั้นปิดลงได้ทันที”
บทสัมภาษณ์นี้คือเครื่องยืนยันถึงจิตใจของนักสู้ผู้ถูกหล่อหลอมจากความยากลำบาก และพร้อมที่จะเขียนตำนานของตัวเองให้โลกจดจำ โดยไม่ต้องอยู่ใต้เงาของพี่ชายอีกต่อไป