เออร์ลิง ฮาแลนด์ ส่งสัญญาณเตือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ สุดสัปดาห์นี้ ด้วยฟอร์มการเล่นอันน่าสะพรึงกลัว หลังเหมาคนเดียว 5 ประตู ช่วยให้ทีมชาตินอร์เวย์เปิดบ้านถล่มเอาชนะ มอลโดวา ไปอย่างขาดลอย 11-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก แต่สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าฟอร์มการถล่มประตู คือสิ่งที่เขาทำหลังจบเกม
ดาวยิงจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช้เวลาเพียงครึ่งแรกในการทำแฮตทริกที่ 5 ของตัวเองในนามทีมชาติ ก่อนจะมาบวกเพิ่มอีก 2 ประตูในครึ่งหลัง ทำให้สถิติการยิงประตูในทีมชาติของเขาสูงถึง 48 ประตูจากการลงเล่นเพียง 45 นัด อย่างไรก็ตาม แม้จะตกเป็นเป้าสายตาจากฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม แต่หลังสิ้นเสียงนกหวีด ฮาแลนด์ ได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬาอันยอดเยี่ยม
คริสเตียน อัฟราม ผู้รักษาประตูทีมชาติมอลโดวา ซึ่งต้องเผชิญกับฝันร้ายตลอด 90 นาที ได้เปิดเผยบทสนทนาที่น่าประทับใจกับฮาแลนด์หลังจบเกม “ผมได้คุยกับเออร์ลิง เขาเดินมาบอกผมว่า ‘นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ’ และบอกว่าเขาแค่ต้องพยายามยิงประตูให้ได้มากที่สุดเพราะเรื่องของผลต่างประตูได้เสีย ซึ่งผมเข้าใจเขา” อัฟราม กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ดูผมสิ ผมจะพูดอะไรได้? ผมคงไม่ตายหรอก ผมต้องเข้มแข็งไว้ อีกไม่กี่วันผมก็มีแมตช์ต้องลงเล่นอีก แต่ 11 ประตูนี่มันเยอะมากจริงๆ”
ชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงแต่เป็นการคว้าชัยด้วยสกอร์ที่ถล่มทลายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมอลโดวา แต่ยังเป็นการทาบสถิติชัยชนะสูงสุดในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรปอีกด้วย โดยนอกจาก 5 ประตูของฮาแลนด์แล้ว เธโล อาสการ์ด ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลังยังทำได้ถึง 4 ประตู ตอกย้ำความเหนือชั้นของนอร์เวย์ในเกมนี้
การกระทำของฮาแลนด์หลังจบเกม แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและความเคารพต่อคู่ต่อสู้ แม้จะอยู่ในสนามแข่งขันที่ดุเดือด แต่เขาก็ยังคงมีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจและได้รับการชื่นชมจากแฟนบอลทั่วโลก และแน่นอนว่าฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงขนาดนี้ ย่อมเป็นที่น่าจับตามองสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมสำคัญที่กำลังจะมาถึงอย่างไม่ต้องสงสัย