ท่ามกลางความวุ่นวายของวันสุดท้ายในตลาดซื้อขายนักเตะ ไม่มีดีลไหนจะสร้างความโกลาหลและดราม่าได้เท่ากับการย้ายทีมของ มาร์ค เกฮี จากคริสตัล พาเลซ สู่ ลิเวอร์พูล ที่พลิกไปพลิกมาจนวินาทีสุดท้าย ก่อนจะจบลงด้วยความผิดหวังของทัพ “หงส์แดง”
เรื่องราวเริ่มต้นเหมือนจะจบลงด้วยดี เมื่อมีรายงานว่าทั้งสองสโมสรตกลงค่าตัวกันได้ที่ 35 ล้านปอนด์ และตัวนักเตะได้เริ่มกระบวนการตรวจร่างกายในลอนดอนแล้ว แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลายลงเมื่อพาเลซตัดสินใจ “ดึงปลั๊ก” ในช่วงต่อเวลาพิเศษหลังเส้นตาย นี่คือบทสรุปของมหากาพย์ที่คุกรุ่นมาตลอดเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม และยังเผยให้เห็นถึงรอยร้าวและความตึงเครียดระหว่าง โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ผู้จัดการทีม และ สตีฟ แพริช ประธานสโมสรคริสตัล พาเลซ
ทำไมดีลถึงพังทลาย?
หัวใจของปัญหาอยู่ที่จุดยืนที่แตกต่างกันสุดขั้วของสองผู้มีอำนาจในถิ่นเซลเฮิร์สท์ พาร์ค
- ฝั่ง โอลิเวอร์ กลาสเนอร์: กุนซือชาวออสเตรียยืนกรานเสียงแข็งมาตลอดว่า “ถ้าไม่มีตัวแทน ก็ไม่มีการปล่อย” เขามองว่าการรั้งตัวกัปตันทีมชาติอังกฤษไว้คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการพาทีมประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้
- ฝั่ง สตีฟ แพริช: ประธานสโมสรตระหนักดีว่า เกฮี เหลือสัญญาเพียงปีเดียวและไม่มีทีท่าว่าจะต่อสัญญาใหม่ เขาจึงต้องการขายนักเตะเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียไปแบบฟรีๆ ในซัมเมอร์หน้า ซึ่งเป็นหลักการทางธุรกิจที่เข้าใจได้
ลิเวอร์พูลเองก็มีส่วนในความซับซ้อนนี้ พวกเขาสนใจ เกฮี มาตลอดซัมเมอร์ แต่ยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 30 สิงหาคม และยอมรับข้อเสนอ 35 ล้านปอนด์ในวันสุดท้าย การรอจนถึงนาทีสุดท้ายคือการเดิมพันที่พวกเขาคิดว่าจะชนะ เพราะเชื่อว่าพาเลซจำเป็นต้องขาย แต่พวกเขากลับประเมิน “เกมชิงอำนาจ” ของกลาสเนอร์ต่ำเกินไป
ในวันสุดท้าย แม้พาเลซจะพยายามหาตัวแทนอย่าง อีกอร์ ฮูลิโอ แต่ดีลก็ล่มไปอีก ทำให้กลาสเนอร์มีเหตุผลที่หนักแน่นพอที่จะคัดค้านการย้ายทีมของเกฮีอย่างถึงที่สุด สุดท้าย แพริชก็ต้องยอมตามความต้องการของผู้จัดการทีม เพื่อรักษาบรรยากาศภายในและอนาคตของกลาสเนอร์เองที่สัญญาจะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้เช่นกัน
บทสรุปของทุกฝ่าย
- ลิเวอร์พูล: ผิดหวังอย่างยิ่ง แต่ก็เข้าใจสถานการณ์ พวกเขาต้องเก็บ โจ โกเมซ ไว้ และมีแนวโน้มสูงที่จะกลับไปหา เกฮี อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในเดือนมกราคมด้วยค่าตัวที่ถูกลง หรือรอเซ็นฟรีในฤดูกาลหน้า
- คริสตัล พาเลซ: ได้เก็บกัปตันทีมและกองหลังที่ดีที่สุดไว้ใช้งาน ซึ่งเป็นผลดีต่อผลงานในสนาม แต่ก็ต้องเสี่ยงกับการเสียเขาไปแบบไม่ได้อะไรเลย และยังเผยให้เห็นความขัดแย้งภายในระหว่างผู้จัดการทีมและประธานสโมสร
- มาร์ค เกฮี: แม้จะผิดหวังที่ชวดโอกาสย้ายไปร่วมทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่เขายังคงเป็นฝ่ายที่ “กุมไพ่เหนือกว่า” ในการกำหนดอนาคตของตัวเอง และคาดว่าจะมีสโมสรยักษ์ใหญ่มากมายรอเซ็นสัญญากับเขาในซัมเมอร์หน้า
นี่คือละครฉากใหญ่ในวันปิดตลาด ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าในโลกฟุตบอล ไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ