นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงตลาดซื้อขายที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากประเด็นสำคัญคือความต้องการย้ายทีมของ อเล็กซานเดอร์ อีซัค
กองหน้าทีมชาติสวีเดนที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเพชรเม็ดงามในแผนงานของ เอ็ดดี้ ฮาว เริ่มแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน หลัง ลิเวอร์พูล แสดงความสนใจเข้ามาเมื่อต้นซัมเมอร์นี้
เขาแสดงจุดยืนชัดเจนด้วยการปฏิเสธการกลับมาซ้อมหรือร่วมทีมอีกต่อไป แต่ยังคงรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 140,000 ปอนด์ตามสัญญา
สถานการณ์นี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่
การปล่อย อเล็กซานเดอร์ อิซัค ออกไปจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสโมสรหาตัวแทนได้ก่อนเท่านั้น ทว่าตลาดกองหน้าฝีเท้าระดับนี้มีตัวเลือกจำกัด แถมหลายเป้าหมายหลุดมือไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เลียม ดีแล็ป, อูโก เอกีตีเก้, เชา เปโดร และ เบนจามิน เชสโก้ ที่ย้ายไปสโมสรอื่นเรียบร้อย
แม้ยังคงให้ความสนใจใน นิโกลาส แจ็คสัน ของ เชลซี แต่ก็ต้องแข่งกับ แอสตัน วิลล่า ที่เดินหน้าหนักกว่า
การเริ่มต้นซีซั่นด้วยผลเสมอในเกมพบ แอสตัน วิลล่า ยิ่งตอกย้ำว่าทีมขาดศูนย์หน้าตัวเป้าอย่างเห็นได้ชัด
แม้ ฮาว จะได้เสริมทัพในตำแหน่งอื่นแล้ว เช่น จาค็อบ แรมซีย์, แอนโธนี่ อีลังก้า, มัลิค ธิอาว และ อารอน แรมส์เดล แต่ทีมยังดูไม่สมบูรณ์หากไม่มีหอกที่ยืนค้ำแดนหน้าได้
ความจำเป็นนี้ทำให้ นิวคาสเซิ่ล หันมาพิจารณาดีลใหญ่สำหรับกองหน้าที่มีสไตล์คล้ายกับ คริส วู้ด อดีตดาวยิงของทีม
นิวคาสเซิ่ล ล็อกเป้า ยอร์เก้น สแตรนด์ ลาร์เซ่น
ตามรายงานของ เลียม คีน จากสื่อ Express & Star ระบุว่า นิวคาสเซิ่ล กำลังเดินหน้าเจรจาคว้าตัว ยอร์เก้น สแตรนด์ ลาร์เซ่น จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในซัมเมอร์นี้
ตัวแทนของทั้งสองฝ่ายเริ่มพูดคุยในเบื้องต้นแล้ว และมีรายงานว่าบรรลุข้อตกลงส่วนตัวกับนักเตะเรียบร้อย
อย่างไรก็ดี การเจรจาระหว่างสองสโมสรยังไม่เกิดขึ้น แต่ วูล์ฟส์ ประเมินค่าตัวแข้งนอร์เวย์รายนี้ไว้ราว 60 ล้านปอนด์
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของเขากับทีม หมาป่า โดยเจ้าตัวเพิ่งเซ็นสัญญาถาวรกับสโมสรเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม หลังถูกยืมตัวมาจาก เซลต้า บีโก้
วูล์ฟส์ ใช้ออปชั่นซื้อขาดด้วยค่าตัวเริ่มต้น 23 ล้านปอนด์ บวกค่าธรรมเนียมยืม 2.5 ล้านปอนด์ พร้อมมอบสัญญายาวถึงปี 2029 ทำให้ความสนใจของ สาลิกาดง ครั้งนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย
สำหรับ นิวคาสเซิ่ล มองว่า ลาร์เซ่น คือคำตอบที่พร้อมแทนที่ คริส วู้ด ในการยืนค้ำแดนหน้า เซนต์ เจมส์พาร์ก
ทำไม ลาร์เซ่น ถูกเปรียบกับ คริส วู้ด
ฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีกของ ลาร์เซ่น ถือว่าน่าประทับใจ
เขาทำประตูถึงเลขสองหลักในลีก พร้อมโชว์การพักบอลที่สำคัญอย่างยิ่งหลังจาก มาเธอุส คุนญ่า ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในแผนการทำทีมของ วิตอร์ เปเรร่า แข้งรายนี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางในแนวรุก และสโมสรไม่มีความตั้งใจจะปล่อยตัว
สิ่งนี้ยิ่งเสริมด้วยฟอร์มและโปรไฟล์ของเขาที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนสูง 1.93 เมตร และอายุเพียง 25 ปี เขากำลังกลายเป็นกองหน้าที่ครบเครื่อง ทั้งการเชื่อมเกม ดึงแนวรับ และการจบสกอร์
สถิติในทีมชาติอาจยังไม่โดดเด่น (ยิง 3 ประตูจาก 21 นัด) แต่ผลงานระดับสโมสรชัดเจนว่ากำลังพุ่งขึ้นอย่างมาก
หากมองเชิงสถิติ ผลงานของ ลาร์เซ่น ในซีซั่นล่าสุดทำไป 18 ประตูและแอสซิสต์รวม เทียบใกล้เคียงกับ วู้ด ที่มี 23 ครั้งในซีซั่นก่อน
ข้อมูลจาก FBref ชี้ว่าเขามีความแม่นยำสูงด้วยอัตรายิงตรงกรอบ 61.1% เหนือกว่า วู้ด ที่ทำได้ 49.2% และเฉลี่ยยิงเข้ากรอบต่อ 90 นาทีมากกว่า (1.15 ต่อ 0.97)
สำหรับทีมอย่าง นิวคาสเซิ่ล ที่สร้างโอกาสได้หลายครั้งในเกมกับ แอสตัน วิลล่า แต่ขาดตัวจบสกอร์ธรรมชาติ สถิติแบบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง
แม้ วู้ด จะโดดเด่นเรื่องการจ่ายบอลลึก (เฉลี่ย 30.9 เมตรต่อครั้ง และ 1.28 จ่ายบอลก้าวหน้า) แต่ ลาร์เซ่น เล่นสไตล์สมัยใหม่มากกว่า เน้นลากบอลเข้าหาคู่แข่ง (เฉลี่ย 12 ครั้งต่อเกม) และมีการพาบอลก้าวหน้าเหนือกว่า
ในแง่เกมรับ ลาร์เซ่น ยังทำผลงานดีกว่าโดยเฉลี่ยทั้งแท็กเกิลและบล็อกเกือบสองเท่าของ วู้ด ซึ่งสอดคล้องกับระบบเพรสซิ่งเข้มข้นของ ฮาว
โดยรวมแล้ว นิวคาสเซิ่ล กำลังเล็งนักเตะที่เหมือน คริส วู้ด เวอร์ชันหนุ่มกว่า คล่องตัวกว่า และแม่นยำกว่าในพื้นที่สุดท้าย
อย่างไรก็ดี จุดที่ท้าทายคือค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นการซื้อตัวที่แพงที่สุดอันดับสองของสโมสร รองจาก อีซัค
คำถามคือ ฟอร์มและคุณภาพของเขาจะคุ้มค่ากับเม็ดเงินขนาดนี้หรือไม่ แต่สถานการณ์ที่บีบบังคับอาจทำให้ นิวคาสเซิ่ล ต้องเร่งปิดดีล ขณะที่ วูล์ฟส์ รู้ว่าพวกเขาถือไพ่เหนือกว่าและไม่ยอมปล่อยง่ายๆ อย่างแน่นอน