7msport

เซเรีย อา, ลีกที่บ้าคลั่งที่สุดในยุโรป, กลับมาแล้ว – หลังผ่านช่วงซัมเมอร์ที่เหลือเชื่อ

การติดตาม กัลโช่ เซเรีย อา ก็ไม่ต่างอะไรกับการชมภาพยนตร์ของ เฟเดริโก้ เฟลลินี่… คุณไม่จำเป็นต้องพยายามทำความเข้าใจทุกอย่าง แค่ปล่อยให้มันถาโถมเข้าใส่คุณ ทั้งในความสวยงามและความไร้สาระของมัน

พล็อตเรื่องหลัก – ใครจะคว้าสคูเด็ตโต้, ใครจะได้ไปแชมเปียนส์ลีก, ใครจะตกชั้น – มักจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องรอง เมื่อเทียบกับฉากประกอบที่ซับซ้อนและมักจะน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

ลองดูช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเป็นตัวอย่าง…

ลาซิโอ โดนแบนห้ามซื้อขายนักเตะ แต่เรื่องแดงขึ้นมาหลังจากที่สโมสรเพิ่งจ้าง เมาริซิโอ ซาร์รี่ กลับมาคุมทีม ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน! ซามพ์โดเรีย ตกชั้นไปเซเรีย ซี ก่อนที่จะได้กลับขึ้นมาอีกครั้งในเวลาไม่ถึงเดือนหลังจาก เบรสชา ถูกยุบทีม ซาแลร์นิตาน่า ต้องลงเล่นเกมหนีตายทั้งที่นักเตะและทีมงานกว่า 21 คนโดนอาหารเป็นพิษจนต้องเข้าโรงพยาบาล!

เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น อันเดรีย สตรามัชโชนี่ อดีตกุนซือและนักวิจารณ์ชื่อดัง กลายเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตคนจมน้ำ! จิจี้ ดอนนารุมม่า กัปตันทีมชาติไม่รู้ว่าจะได้ลงเฝ้าเสาที่ไหนในฤดูกาลนี้ หลังจาก หลุยส์ เอ็นริเก้ ประกาศชัดว่าเขาหมดอนาคตกับเปแอสเชแล้ว

นี่คือความบ้าคลั่ง… ฟุตบอลอิตาลีตกลงปลงใจกับความบ้าคลั่ง

ขณะที่ทีมชาติกำลังอยู่ในภาวะตื่นตระหนกกับโอกาสที่จะพลาดไปฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน วงการกีฬาอิตาลีกลับถูกยึดครองโดย ยานนิค ซินเนอร์ นักเทนนิสหนุ่มวัย 24 ปี ที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วประเทศ

แต่ถึงกระนั้น ฟุตบอลก็ยังคงมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ…

สุดสัปดาห์แรกของพรีเมียร์ลีกได้ย้ำเตือนถึงพรสวรรค์ที่อิตาลีสามารถมอบให้ได้ ทั้งลูกวอลเลย์สุดสวยของ เฟเดริโก้ เคียซ่า ที่แอนฟิลด์, ลูกโหม่งของ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปจนถึงฟอร์มอันน่าทึ่งของ ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส

แม้จะมีความแตกต่างด้านการใช้จ่ายอย่างมหาศาล แต่เซเรีย อาก็ยังสามารถรั้งตัวผู้เล่นคนสำคัญส่วนใหญ่ไว้ได้ มีการเปลี่ยนแปลงโค้ชมากมาย มีการผสมผสานระหว่างดาวดังรุ่นเก๋าอย่าง ลูก้า โมดริช (เอซี มิลาน) และดาวรุ่งพรสวรรค์สูง

ฟุตบอลอิตาลีน่าติดตามในความที่ไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแท้จริง ทั้งในความสวยงามและความไร้เหตุผลในหลายๆ ระดับ มันยากที่จะเข้าใจและไม่ค่อยมีเหตุผลที่ชัดเจน มันให้ความรู้สึกเหมือนจินตนาการในหนังของเฟลลินี่… แต่นั่นแหละคือฟุตบอลอิตาลี