7msport

“ผมไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้น” – เจาะลึกทุกแง่มุม “อูโก้ เอกิติเก้” ดาวยิงคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล

ความทรงจำที่แข็งแกร่งที่สุดของ ดาวิด กียง โค้ชผู้ค้นพบ อูโก้ เอกิติเก้ ไม่ใช่ประตูหรือแอสซิสต์ แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกสนามแข่งขัน…

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2020 เอกิติเก้ ในวัยเพียง 17 ปี ได้รับรางวัลให้ขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของแร็งส์เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แต่เมื่อถึงเวลาประกาศรายชื่อนักเตะสำหรับเกมสุดสัปดาห์ ชื่อของเขากลับหลุดโผ ซึ่งเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ แต่สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ เขาไม่พอใจและเดินเข้าไปคุยกับ กียง ทันทีเพื่อบอกว่า “นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด”

“เขามีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก นั่นคือคุณภาพที่ยิ่งใหญ่ของเขา เขาตระหนักถึงคุณภาพของตัวเองและตั้งเป้าหมายไว้สูงเสมอ เขาไม่เคยสงสัยในตัวเองเลย” กียง กล่าว

นี่คือธีมหลักที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในเส้นทางของ เอกิติเก้ จากแร็งส์สู่ลิเวอร์พูล สิ่งที่โดดเด่นยิ่งกว่าทักษะและพรสวรรค์ทางร่างกาย คือ “ความเชื่อมั่นในตนเองที่ไม่เคยสั่นคลอน”

จากเด็กน้อยร่างผอมแห้งสู่ดาวยิงที่น่าจับตา

เอกิติเก้ เติบโตในย่านชานเมืองของแร็งส์ และถูกค้นพบโดย กียง ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเยาวชน “เขาเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในภูมิภาค มันมองเห็นศักยภาพของเขาได้ไม่ยากเลย” กียง เล่า

แต่มีเรื่องน่ากังวลเพียงอย่างเดียวคือสภาพร่างกาย “เขาทั้งผอมและบอบบางมาก” ฟรองค์ ชาเลนคอน โค้ชทีมสำรองกล่าว “เรากลัวว่าเขาจะหักเป็นสองท่อนทุกครั้งที่เข้าปะทะ” แต่ด้วยการฝึกฝนร่างกายส่วนบนอย่างหนัก เขาก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นและพิสูจน์ตัวเองด้วยการยิง 5 ประตูจากการลงเล่น 12 นัดให้ทีมสำรองในวัยเพียง 17 ปี

บททดสอบที่เดนมาร์กและช่วงเวลาที่ยากลำบากในปารีส

หลังจากได้ประเดิมสนามในลีกเอิง เอกิติเก้ ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้ เวเจิล ในลีกเดนมาร์กด้วยสัญญายืมตัว “ผมต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง” เขาให้เหตุผล ซึ่ง กียง มองว่า “มันชัดเจนมากสำหรับเขา ทุกอย่างแทบจะถูกคำนวณไว้แล้ว”

เส้นทางของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป หลังจากแจ้งเกิดกับแร็งส์ในฤดูกาลถัดมาด้วยการยิง 10 ประตูในลีกเอิง เขาย้ายไปร่วมทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์อย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป้, เนย์มาร์ และ ลิโอเนล เมสซี่

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดที่ เอกิติเก้ ทำที่เปแอสเช คือการย้ายออกจากทีม ครึ่งแรกของฤดูกาล 2023-24 ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ กลายเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริง: ลงเล่น 1 นัด, 0 ประตู และนั่นคือช่วงเวลาที่เกือบจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นในตัวเองของเขาเป็นครั้งแรกในอาชีพ

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่แฟรงค์เฟิร์ต

เอกิติเก้ ย้ายไป ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ด้วยสัญญายืมตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในสภาพร่างกายที่ย่ำแย่ “เขามีแรงเล่นได้แค่ 5 หรือ 10 นาทีเท่านั้น” เซบาสเตียน โรเด้ อดีตกัปตันทีมแฟรงค์เฟิร์ตกล่าว

แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะไม่เสียเวลาเหมือนตอนอยู่ที่ปารีส เขาทำงานอย่างหนักเพื่อเรียกความฟิตกลับมา และค่อยๆ ฉายแววเก่งออกมาทีละน้อยจนกลายเป็นกำลังหลักของทีมในที่สุด “วิธีที่เขาพัฒนาตัวเองนั้นน่าประทับใจมาก และยังมีอะไรอีกมากที่จะตามมา ผมว่าเขายังเล่นได้แค่ 50 หรือ 60 เปอร์เซ็นต์ของศักยภาพทั้งหมดเท่านั้น” มาร์คุส โครเชอ ผู้อำนวยการกีฬาของแฟรงค์เฟิร์ตกล่าว

สำหรับลิเวอร์พูล นั่นคือทฤษฎีที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง การได้ดาวยิงที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์, มีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง และยังพัฒนาได้อีกไกล คือการลงทุนที่อาจนำมาซึ่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในอนาคต ดังที่ กียง ผู้ค้นพบเขากล่าวทิ้งท้ายว่า:

“เขามีครบทุกอย่าง และเขาก็มีความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างมหาศาล”