ลิเวอร์พูล เตรียมลงสนามพบกับ คริสตัล พาเลซ ในศึก เอฟเอ คอมมิวนิตี้ชิลด์ สุดสัปดาห์นี้ แต่แฟนบอลจะไม่สามารถรับชมผ่านฟรีทีวีได้อีกต่อไป
โดยเกมนี้เป็นการแข่งขันเพื่อชิงถ้วยรางวัลแรกของฤดูกาล ซึ่งทัพ “หงส์แดง” มีเป้าหมายคว้าแชมป์ คอมมิวนิตี้ชิลด์ ให้ได้เป็นครั้งแรกในรอบสามปี เกมจะฟาดแข้งกันในวันอาทิตย์ที่ สนามเวมบลีย์ ซึ่งเป็นการพบกันระหว่างแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลก่อน และแชมป์ เอฟเอคัพ
ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สลอต จบฤดูกาลที่แล้วด้วยการครองแชมป์ลีกอย่างเหนือชั้น ทิ้งห่างอันดับสองถึง 10 คะแนนในการคุมทีมนัดแรกที่ แอนฟิลด์
ขณะเดียวกัน ลูกทีมของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ อย่าง คริสตัล พาเลซ ก็สร้างประวัติศาสตร์ให้สโมสรเมื่อ เอเบเรชี เอเซ่ ยิงประตูชัยพาทีมเฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ในนัดชิง เอฟเอคัพ คว้าแชมป์รายการใหญ่ครั้งแรกของสโมสร
การดวลกันในวันอาทิตย์นี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่ คริสตัล พาเลซ ได้ลงเล่นในรายการ คอมมิวนิตี้ชิลด์ ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานเกือบ 120 ปี
ต่างจากฝั่งของ ลิเวอร์พูล ที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาแล้วถึง 16 สมัย ล่าสุดคือในปี 2022 เมื่อพวกเขาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จ โดยมีเพียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (21 ครั้ง) และ อาร์เซนอล (17 ครั้ง) ที่คว้าแชมป์มากกว่า
อย่างไรก็ตาม แม้แฟนบอลทั้งสองทีมต่างเฝ้ารอชมเกมนี้อย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากปีนี้จะไม่มีการถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีอีกต่อไป
สถานีโทรทัศน์ ไอทีวี ซึ่งเคยถือสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการนี้มายาวนาน สูญเสียสิทธิ์การออกอากาศในปีนี้
โดยสิทธิ์การถ่ายทอดสดได้ถูกโอนย้ายไปยังช่องแบบสมัครสมาชิก ซึ่งจะรับชมได้เฉพาะทาง ทีเอ็นที สปอร์ตส์ และ ดิสคัฟเวอรี่ พลัส เท่านั้น
แฟนบอลสามารถเปิดรับชมช่อง TNT Sport 1 ตั้งแต่เวลา 2 โมงเย็น ตามเวลาสหราชอาณาจักร เพื่อชมรายการพิเศษก่อนเกม โดยการแข่งขันจะเริ่มต้นในเวลา 3 โมงเย็น และสิ้นสุดเวลา 6 โมงเย็น
ก่อนถึงเกมในสุดสัปดาห์นี้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษออกแถลงการณ์ยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงช่องถ่ายทอดสดในปีนี้
“ศึก เอฟเอ คอมมิวนิตี้ชิลด์ ปี 2025 จะเป็นการพบกันระหว่างผู้ชนะ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2024-25 คือ คริสตัล พาเลซ และ แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024-25 คือ ลิเวอร์พูล” ในประกาศระบุ
“เกมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่ สนามเวมบลีย์ ในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม และจะถ่ายทอดสดแบบเอ็กซ์คลูซีฟทาง TNT Sport 1 โดยเริ่มแข่งเวลา 3 โมงเย็นตามเวลาท้องถิ่น”
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ไอทีวี จะสูญเสียสิทธิ์ถ่ายทอดสด เอฟเอคัพ ตั้งแต่ฤดูกาล 2025/26 เป็นต้นไป
ตามข้อตกลงใหม่ บีบีซี จะกลายเป็นช่องฟรีทีวีที่ได้สิทธิ์ถ่ายทอดสด เอฟเอคัพ อีกครั้ง โดยจะมีการถ่ายทอดสดทั้งหมด 14 นัด ขณะที่ TNT Sport จะยังมีสิทธิ์ถ่ายทอดร่วมด้วย