แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นเรื่องนอกสนาม จากรายงานของ ดิ แอธเลติก สโมสร “เรือใบสีฟ้า” ได้ตกลงขยายสัญญามูลค่ามหาศาลกับ พูม่า ซึ่งจะทำให้ยักษ์ใหญ่ด้านชุดกีฬาจากเยอรมนีรายนี้ยังคงเป็นผู้สนับสนุนชุดแข่งขันของทีมไปอีกอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ ข้อตกลงดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล ซึ่งถือเป็น ข้อตกลงผู้สนับสนุนชุดแข่งขันที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ตัวเลขทำลายสถิติ ยืนยันอำนาจตลาดของซิตี้
พูม่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นความร่วมมือกันครั้งแรกในฤดูกาล 2019-20 ด้วยข้อตกลง 65 ล้านปอนด์ต่อปี การเจรจาสัญญาใหม่นี้ถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญ แหล่งข่าวที่ทราบรายละเอียดของข้อตกลงเปิดเผยกับ ดิ แอธเลติก ว่า “ข้อตกลงชุดแข่งขันนี้มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก”
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น คู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสัญญา 10 ปีกับ อาดิดาส มูลค่า 90 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล แต่มีเงื่อนไขด้านผลงานที่ทำให้ ยูไนเต็ด ได้รับเพียง 80 ล้านปอนด์ในฤดูกาลนี้ เนื่องจากการพลาดโควต้า ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ส่วนข้อตกลงใหม่ของ ลิเวอร์พูล กับ อาดิดาส ก็มีตัวเลขพื้นฐาน แต่สามารถเพิ่มขึ้นได้ขึ้นอยู่กับยอดขายและเป้าหมายด้านผลงาน
สิ่งที่ทำให้ข้อตกลงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าสังเกตเป็นพิเศษคือ รายงานระบุว่าพวกเขารับเงินสุทธิ 100 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ระบุไว้ในรายงานด้านการเงินและการลงทุนของ ยูฟ่า ต่างจากสโมสรอื่นที่รายงานรายรับรวม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้จ้างบริษัท สติชต์ (stichd) ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตจาก พูม่า ให้บริหารจัดการด้านสินค้า และบันทึกรายได้ในแบบสุทธิ
การเติบโตเชิงพาณิชย์ที่สอดคล้องกับความสำเร็จในสนาม
ในช่วงห้าปีที่ร่วมงานกัน พูม่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ฉลองถ้วยรางวัลสำคัญ 8 รายการกับทีมชาย ความสำเร็จในสนามนี้สอดคล้องกับการเติบโตเชิงพาณิชย์ ยกระดับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้เป็นพันธมิตรด้านฟุตบอลระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดของ พูม่า แซงหน้าสโมสรใหญ่อย่าง เอซี มิลาน, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และทีมชาติโปรตุเกส
“ตัวเลข 100 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาลใหม่นี้มีมูลค่าสูงกว่าข้อตกลงอื่นใดที่ตกลงโดยสโมสรคู่แข่งอย่างสบาย” บทความระบุ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความโดดเด่นทางฟุตบอลของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นในฐานะแบรนด์ระดับโลกอีกด้วย
นัยยะทางการเงินต่อกลุ่ม “บิ๊กซิกซ์”
จากข้อมูลของ ดิ แอธเลติก ในฤดูกาล 2023-24 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าต่ำที่สุดในบรรดาทีม “บิ๊กซิกซ์” ของพรีเมียร์ลีก แต่ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากวิธีการทางบัญชี ด้วยข้อตกลงนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะทะยานขึ้นสู่การจัดอันดับอย่างรวดเร็ว มีโอกาสแซงหน้า อาร์เซนอล (104 ล้านปอนด์) และเข้าใกล้ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ทั้งสองประมาณ 127 ล้านปอนด์รวม)
คริส วีเธอร์สปูน นักเขียนด้านการเงินฟุตบอลที่ให้บทวิเคราะห์ในบทความนี้ ได้ให้ข้อสังเกตที่สำคัญว่า: “การอธิบายข้อตกลงใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ พูม่า ว่าให้ผลกำไรสูงนั้น อาจจะยังเป็นการประเมินค่าต่ำเกินไป” อันที่จริง หากเงื่อนไขด้านผลงานเป็นไปตามที่ตกลง หรือตัวเลขพื้นฐานได้รับการรับประกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางการค้าในวงการฟุตบอลอังกฤษ
แนวโน้มสำหรับความร่วมมือในอนาคต
ข้อตกลงนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงยุคใหม่ที่สโมสรต่างๆ ไม่เพียงแต่ต้องคว้าถ้วยรางวัลเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นเลิศในการเป็นพันธมิตรเชิงพาณิชย์ด้วย การตัดสินใจของ พูม่า ที่จะรั้งตัว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไว้ไปอีกหนึ่งทศวรรษ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในความสามารถของสโมสรในการสร้างผลตอบแทนทั้งด้านกีฬาและการเงิน สำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ข้อตกลงนี้ตอกย้ำความทะเยอทะยานที่จะเป็นผู้นำไม่เพียงแค่ในสนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในห้องประชุมและตลาดโลกด้วย
มุมมองของเรา – การวิเคราะห์ของ EPL Index
ในฐานะแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีความหลงใหล ข้อตกลงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในยุคสมัยใหม่ของสโมสร “เรือใบสีฟ้า” ได้เปลี่ยนจากการเป็นผู้สร้างความปั่นป่วนในวงการฟุตบอลมาเป็นผู้นำ และการขยายสัญญากับ พูม่า ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว
การได้รับเงิน 100 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาลจากข้อตกลงชุดแข่งขัน แสดงให้เห็นถึงความเคารพที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รับในตลาดกีฬาระดับโลก เป็นเวลาหลายปีที่ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ถูกมองว่าเป็นยักษ์ใหญ่ทางการค้า แต่ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังตามทัน และอาจจะแซงหน้าไปแล้ว
การที่ พูม่า เต็มใจที่จะไม่เพียงแค่ขยายสัญญา แต่ยังเพิ่มมูลค่าอย่างมหาศาล บ่งบอกให้เห็นว่าพวกเขาเห็นคุณค่าในแบรนด์ระดับโลกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากเพียงใด แปดถ้วยรางวัลในห้าปี ผู้เล่นดาวเด่น ผู้จัดการทีมระดับโลก และสไตล์ฟุตบอลที่ทั่วโลกชื่นชม ได้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นขุมพลังทางการตลาด
ในฐานะแฟนบอล ความร่วมมือนี้ยังทำให้ผมมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของสโมสร รายได้เชิงพาณิชย์ที่มากขึ้นหมายถึงการลงทุนซ้ำในทีม สิ่งอำนวยความสะดวก และโครงการระดับโลกที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังหมายความว่าเราสามารถแข่งขันกับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปได้อย่างมั่นใจ ไม่เพียงแค่ในสนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในโลกธุรกิจด้วย
กล่าวโดยสรุป ข้อตกลงกับ พูม่า ครั้งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับการคว้าแชมป์อีกครั้ง ซึ่งรับประกันว่าความโดดเด่นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ
ข้อตกลงชุดแข่งขันมูลค่า 100 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาลระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ พูม่า ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่ไม่เพียงสะท้อนความสำเร็จในสนาม แต่ยังรวมถึงการเติบโตของแบรนด์ในระดับโลก