7msport

“มิลอส เคอร์เคซ”: 9 เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับแบ็กซ้ายคนใหม่ของลิเวอร์พูล

สโมสรลิเวอร์พูล แชมป์พรีเมียร์ลีกทีมล่าสุด ได้ประกาศยืนยันการคว้าตัว มิลอส เคอร์เคซ แบ็กซ้ายทีมชาติฮังการีจาก เอเอฟซี บอร์นมัธ มาร่วมทัพอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเซ็นสัญญาระยะยาวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และเพื่อทำความรู้จักกับสมาชิกใหม่ในถิ่นแอนฟิลด์ให้มากขึ้น นี่คือ 9 เรื่องราวน่าสนใจทั้งในและนอกสนามของเขา

1. พรสวรรค์ที่ได้รับการยอมรับในระดับยุโรป ลิเวอร์พูลได้นักเตะที่มีพรสวรรค์อันโดดเด่นมาร่วมทีม เคอร์เคซเคยมีชื่ออยู่ในลิสต์สุดท้ายของผู้เข้าชิงรางวัล “โกลเด้น บอย” ปี 2023 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับดาวรุ่งยอดเยี่ยมที่ค้าแข้งในยุโรป นอกจากนี้ เขายังถูกจัดอยู่ใน 10 อันดับแรกของแบ็กซ้ายสองทาง (two-way left-backs) ที่มีอนาคตไกลที่สุดในโลกฟุตบอลโดย CIES Football Observatory ขณะรับใช้ทีมชาติฮังการีในศึกยูโรเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของประเทศที่ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ในรอบ 6 ทศวรรษ และล่าสุดเขายังเป็นหนึ่งใน 6 ผู้ท้าชิงรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA ประจำฤดูกาล 2024-25 อีกด้วย

2. สไตล์การเล่น: แบ็กจอมบุกพลังม้า เคอร์เคซสนุกกับบทบาทของแบ็กซ้ายยุคใหม่ที่ต้องทำหน้าที่ทั้งเกมรุกและรับอย่างสมดุล นับตั้งแต่ย้ายมาพรีเมียร์ลีก เขาได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวางจากแนวทางการเล่นที่เปี่ยมไปด้วยพลังงาน ในฤดูกาล 2024-25 ที่ผ่านมา เคอร์เคซติดท็อป 5 ของผู้เล่นพรีเมียร์ลีกที่มีระยะทางการวิ่งสูงสุด (233.4 ไมล์) และสปรินท์รวมสูงสุด (843 ครั้ง) “ผมเดาว่าการวิ่งขึ้นลงมันคงอยู่ในสายเลือดของผม” ดาวเตะวัย 21 ปีกล่าว “และนั่นคือสิ่งที่ผมชอบทำ” ในแง่ของผลงาน เขาทำไป 5 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่เพิ่งจบไป ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดร่วมของผู้เล่นกองหลังบอร์นมัธในหนึ่งฤดูกาล เขาออกสตาร์ทครบทั้ง 38 นัดในลีกและทำได้อีก 2 ประตู

3. ตำนานกองหลังคือหนึ่งในผู้ชื่นชม เส้นทางค้าแข้งของ เคอร์เคซ เคยพาเขาไปอยู่กับ เอซี มิลาน ในปี 2021 เขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ของอิตาลีหลังจากได้รับโทรศัพท์สายตรงจาก เปาโล มัลดินี่ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคในขณะนั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล “เมื่อสโมสรใหญ่อย่างเอซี มิลาน มองหาคุณ มีคนไม่มากนักหรอกที่จะปฏิเสธได้” เคอร์เคซเคยกล่าวไว้ “ผมได้รับโทรศัพท์โดยตรงจาก เปาโล มัลดินี่ การตัดสินใจมันง่ายมาก และผมก็ตัดสินใจร่วมกับคุณพ่อ”

4. เหตุผลที่เลือกเล่นให้ทีมชาติฮังการี เคอร์เคซเกิดที่เมืองเวอร์บาส ประเทศเซอร์เบีย แต่มีสิทธิ์เล่นให้ทีมชาติฮังการีผ่านทางคุณย่าของเขา และเขาก็รับใช้ทีมชาติฮังการีมาตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงชุดใหญ่ “คุณพ่อและคุณย่าชาวฮังการีของผมคงจะต้องการแบบนั้น และผมเองก็เช่นกัน มันไม่มีข้อสงสัยเลย” เขาเคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฮังการี “ผมตัดสินใจตั้งแต่อายุยังน้อยมาก ตอนอายุ 14 ว่าถ้าผมไปได้ไกลในอาชีพค้าแข้ง ผมอยากจะเล่นให้ทีมชาติฮังการี” เคอร์เคซประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่เมื่อเดือนกันยายน 2022 และติดทีมชาติไปแล้ว 23 นัด

5. ซี้ปึ้กกับ “โดมินิค โซบอสซ์ไล” เคอร์เคซยกให้ โดมินิค โซบอสซ์ไล กองกลางหมายเลข 8 ของลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาในวงการฟุตบอล และเราคาดหวังได้เลยว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นไปอีกเมื่อได้มาเป็นเพื่อนร่วมทีมทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ “ผมสนิทกับโดมินิคมากจริงๆ” เคอร์เคซเคยกล่าวไว้ “เราเล่นด้วยกันในทีมชาติและเราก็คุยกันเยอะมาก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเราคุยกันเยอะมาก ส่งข้อความ โทรหากัน และรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาก แม้กระทั่งก่อนที่ผมจะมาที่บอร์นมัธเราก็สนิทกันแล้ว”

6. คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด… กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทีม ตอนนี้ เคอร์เคซ คงจะโล่งใจที่ได้มาอยู่ทีมเดียวกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังจากที่เคยเปิดเผยว่าดาวยิงชาวอียิปต์คือผู้เล่นเกมรุกที่รับมือได้ยากที่สุดที่เขาเคยเจอมาในอาชีพ เคอร์เคซเคยเผชิญหน้ากับลิเวอร์พูลมาแล้ว 4 ครั้ง โดยสองครั้งเป็นการลงเล่นในสนามเหย้าแห่งใหม่ของเขา และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทุกครั้ง

7. พูดได้หลายภาษา มิลอสเคยค้าแข้งกับสโมสรจาก 6 ประเทศที่แตกต่างกัน และมีความสามารถในการพูดได้ทั้งภาษาเซอร์เบีย, ฮังการี, เยอรมัน, อังกฤษ และอิตาลีเล็กน้อย

8. ชีวิตนอกสนามฟุตบอล ทุกๆ ซัมเมอร์ เคอร์เคซจะเดินทางกลับไปยังเซอร์เบียเพื่อหลีกหนีจากความกดดันของฟุตบอลระดับสูง เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ “เดอะ การ์เดียน” ว่างานอดิเรกของเขาในช่วงพักผ่อนคือการตกปลา, ตั้งแคมป์ และตัดไม้ โดยจะแยกตัวออกจากโทรศัพท์มือถือ “เมื่อคุณกลับมา คุณจะมีแรงจูงใจมากขึ้น มีพลังงานมากขึ้นที่จะทำอะไรในสนามให้มากขึ้น” เขาอธิบาย นอกจากนี้เขายังมีสุนัขสองตัวชื่อ แม็กซิมัส และ แฮด

9. ช่องทางโซเชียลมีเดีย เคอร์เคซมักจะอัปเดตเรื่องราวชีวิตทั้งในและนอกสนามอย่างสม่ำเสมอผ่านทางบัญชีอินสตาแกรมของเขา @miloskerkezofficial ซึ่งในขณะที่เขียนบทความนี้ มีผู้ติดตามเกือบหนึ่งล้านคน