มีไคโล มูดรีค ดาวเตะวัย 24 ปีของ เชลซี ถูกตั้งข้อหาจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ฐานละเมิดระเบียบเกี่ยวกับสารกระตุ้น และกำลังเผชิญโทษแบนยาวจากการแข่งขัน หลังผลตรวจพบว่าเขาใช้สารต้องห้ามชนิดหนึ่ง
รายงานระบุว่าเขาถูกสั่งพักชั่วคราวตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังผลตรวจเลือดพบสารต้องห้าม เมลโดเนียม (Meldonium) และยังไม่มีการคืนสนามตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แถลงการณ์จาก เอฟเอ ระบุว่า: “เราขอยืนยันว่า มีไคโล มูดรีค ถูกตั้งข้อหาละเมิดข้อบังคับต่อต้านสารกระตุ้น โดยพบการใช้หรือมีสารต้องห้ามในร่างกาย ซึ่งเข้าข่ายตามข้อบังคับข้อ 3 และข้อ 4 ของระเบียบต่อต้านสารกระตุ้นของเอฟเอ ทั้งนี้เนื่องจากเรื่องยังอยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวน เราจึงไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ในขณะนี้”
ทาง เชลซี ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ใด ๆ เกี่ยวกับกรณีนี้
เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เสื้อหมายเลข 10 ของ มูดรีค ถูกถอดออกจากรายชื่อผู้เล่นของทีม และถูกส่งต่อให้กับ โคล พาลเมอร์ สำหรับฤดูกาลหน้า เป็นสัญญาณชัดเจนว่าอนาคตของแข้งทีมชาติยูเครนรายนี้ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก
ในช่วงที่มีการประกาศพักการแข่งขัน มูดรีค ได้ออกแถลงว่าเขา “ตกใจอย่างมาก” กับผลตรวจที่ออกมา และยืนยันว่า “ไม่เคยใช้สารต้องห้ามโดยเจตนา” ทางฝั่ง เชลซี ก็สนับสนุนว่า นักเตะรายนี้ “ไม่เคยมีเจตนาใช้สารกระตุ้นต้องห้ามเลย”
มีการรายงานว่าผลตรวจที่เป็นบวกเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเดินทางไปช่วยทีมชาติยูเครนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นช่วงที่มีการใช้สารดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผู้จัดการทีมของ เชลซี เคยชี้แจงว่า มูดรีค ไม่สามารถลงสนามได้เนื่องจากปัญหาสุขภาพ ก่อนที่เรื่องการพักแข้งจะถูกเปิดเผยในภายหลัง
เกมสุดท้ายที่เขาลงสนามให้กับ เชลซี คือในแมตช์ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ที่บุกไปเอาชนะ ไฮเดนไฮม์ 2-0 เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน และหลังจากนั้นก็มีชื่อเป็นตัวสำรองไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกที่ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 เมื่อสามวันต่อมา
นัดสุดท้ายในพรีเมียร์ลีกที่เขาลงสนามคือเกมเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน โดยถูกเปลี่ยนตัวลงมาในช่วงครึ่งหลัง
ตั้งแต่ย้ายมาจาก ชัคตาร์ โดเนตส์ค เมื่อเดือนมกราคมปี 2023 ด้วยค่าตัวสูงถึง 88 ล้านปอนด์ เส้นทางของ มูดรีค กับ เชลซี เต็มไปด้วยความไม่สม่ำเสมอ ทั้งฟอร์มการเล่นที่ไม่แน่นอนและการจบสกอร์ที่ยังไม่คม ทำให้แฟนบอลรู้สึกผิดหวังกับผลงาน
จากสถิติ เขายิงไปเพียง 10 ประตูจากการลงสนาม 73 นัดในทุกรายการ และไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคของ มาเรสก้า ที่ส่งเขาลงสนามส่วนใหญ่ในบอลถ้วยและเกมยุโรปเท่านั้น โดยเกมพรีเมียร์ลีกนัดเดียวที่เขาได้ออกสตาร์ตคือแมตช์ถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน 6-2 ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา