นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ใช้เวลาผ่อนคลายไปกับการชมการแสดงของศิลปินระดับตำนาน แต่ถึงแม้จะพักผ่อนอยู่ เขาก็ยังมองเห็นเหตุผลดีๆ ที่จะนำแรงบันดาลใจมาใช้กับทีมของเขาในฤดูกาลใหม่
สลอต ได้เดินทางไปชมคอนเสิร์ตของ บรูซ สปริงส์ทีน ที่ โค-ออป ไลฟ์ อารีนา ใน แมนเชสเตอร์ เพื่อชมตำนานเพลงร็อกชาวอเมริกันบรรเลงบทเพลงอันเป็นเอกลักษณ์ เตรียมความพร้อมสำหรับการแสดงสองคืนที่ แอนฟิลด์ เดือนหน้า
หลังจากที่เพิ่งกลับจากการพักผ่อนที่ อิบิซา เมื่อสัปดาห์ก่อน สลอต และผู้เล่นของเขาต่างร่วมฉลองความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 20 ซึ่งทำสถิติเทียบเท่าสโมสรในฤดูกาลแรกของเขาที่คุมทีม
อย่างไรก็ตาม ความคิดก็เริ่มมุ่งไปสู่ฤดูกาลหน้าและความท้าทายใหม่ๆ ในการรักษาความกระหายที่จะคว้าแชมป์ต่อไป หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถป้องกันแชมป์ใดๆ ได้ตั้งแต่คว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกันเมื่อปี 1984
สลอต ซึ่งไปร่วมชมคอนเสิร์ตพร้อมกับเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเขาตลอดฤดูกาลแรกที่ แอนฟิลด์ พบว่า บนเวทีนั้นมีคุณสมบัติที่เขาอยากให้ลูกทีมรักษาไว้ หัวใจที่กระหายเพื่อสร้างวันแห่งเกียรติยศนั่นเอง
“ผมเคยได้ยินว่าทุกๆ วัน สปริงส์ทีน ทำอะไรเพื่อให้สามารถทำอย่างที่เขาทำได้” สลอต เผย “พูดถึงเรื่องคนที่มีวินัย ผมรู้ดีว่าเขามีวินัยมากแค่ไหนในการประสบความสำเร็จนี้ เพราะผมได้ฟังจากคนที่รู้จักเขาดี”
“ผมชอบเพลงของเขา และผมร้องเพลง ‘Born In The USA’ ได้ แต่ไม่ใช่ทุกเพลงนะ สิ่งที่ผมสังเกตคือผู้คนคลั่งไคล้ บรูซ สปริงส์ทีน พอๆ กับที่แฟนๆ ของเราคลั่งไคล้ ลิเวอร์พูล”
“ผมชอบดูความสุขที่เขามอบให้กับแฟนเพลง และความสุขที่นักเตะของเรามอบให้แฟนบอลที่ แอนฟิลด์ ซึ่งมันเปรียบได้อย่างดี”
“สปริงส์ทีน วัย 75 ปี ยังสามารถเล่นคอนเสิร์ตสามชั่วโมงโดยไม่หยุดพักแม้แต่นาทีเดียว ผมเห็นเขาดื่มน้ำแค่สามหรือสี่ครั้งเอง มันเหลือเชื่อมาก พูดถึงจิตใจที่แข็งแกร่งจริงๆ”
“หนึ่งในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมได้รับมาจาก (อดีตกุนซือ) เจอร์เก้น คล็อปป์ คือความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่ในทีม ลิเวอร์พูล ทุกคนมาตรงเวลา พยายามทำงานอย่างหนัก แต่สิ่งที่ผมบอกลูกชายก็คือ ใช่ คุณทำงานหนักได้ หรือคุณสามารถทำงานหนักในระดับสูงและมีความสม่ำเสมอได้”
“ผมเชื่อจริงๆ ว่าถ้าคุณสร้างนิสัยที่ดีในทุกช่วงเวลาในแต่ละวัน คุณจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด”
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม ลิเวอร์พูล จะได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกหลังจบเกมสุดท้ายของฤดูกาลกับ คริสตัล พาเลซ ที่บ้านของตัวเองในวันอาทิตย์นี้ โดยคาดว่าผู้คนกว่าหนึ่งล้านคนจะออกมาเฉลิมฉลองระหว่างขบวนแห่ถ้วยในวันถัดไป
ฟาน ไดค์ เป็นหนึ่งในหกผู้เล่นร่วมกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อลิสซง เบ็คเกอร์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ โจ โกเมซ ที่มีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสองสมัยให้กับ ลิเวอร์พูล
แม้ว่ากลุ่มนักเตะทั้งหกนี้จะพิสูจน์แล้วว่ามีความสามารถในการกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้ง แต่ สลอต ก็ยังสงสัยว่าผู้เล่นที่เหลือจะตอบสนองอย่างไร เขาจำเป็นต้องเข้มงวดกับทีมมากขึ้นหรือไม่ในฤดูกาลหน้า?
“มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์” เขาตอบ “ผมคิดว่าหนึ่งในเหตุผลที่คุณมาเล่นให้สโมสรอย่าง ลิเวอร์พูล ก็เพราะคุณมีจิตใจระดับสูง และมีทัศนคติของผู้ชนะที่ต่อเนื่อง”
“แต่บางครั้งในฐานะผู้จัดการทีม คุณก็ต้องช่วยกระตุ้นพวกเขาบ้าง หรือบางทีก็ต้องเข้มงวดกับพวกเขา หรือบางครั้งก็ต้องชมเชยพวกเขา แต่ผมเชื่อ และผมก็เห็นแล้วกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ผมยกตัวอย่างเขาเสมอ เพราะฤดูกาลที่แล้วเขาคืออันดับหนึ่งตอนเราทดสอบในลีก และนั่นบอกผมได้มาก”
“นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยสำหรับผมที่เขาสามารถรักษามาตรฐานระดับสูงได้มาแล้วเจ็ดปี และถ้าคุณดูนักกีฬาระดับสูงในกีฬาต่างๆ พวกเขาก็พูดเหมือนกันหมด ถ้าคุณอยากเป็นผู้ชนะต่อเนื่อง มันก็แค่เรื่องของความสม่ำเสมอในวินัยของคุณตลอดอาชีพหรือชีวิต”
สลอต กล่าวเสริมว่า “ฤดูกาลที่แล้ว ผู้เล่นหลายคนของผม รวมถึงตัวผมเอง ยังไม่เคยคว้าแชมป์ลีกในอังกฤษมาก่อน บางคนเคย แต่ตอนนี้พวกเขาทุกคนคว้ามาแล้ว คราวนี้เรามาดูกันว่าพวกเขาจะตอบสนองอย่างไร และผมคิดว่าผู้ที่เคยได้แชมป์แล้วได้แสดงตัวอย่างที่ดีในฤดูกาลนี้”
“ผมไม่คิดว่าผมจะเห็นว่าเราพร้อมเป็นแชมป์อีกครั้งหรือไม่ในวันแรกของการซ้อมปรีซีซั่น แต่ผมจะเห็นสัญญาณ”
“แน่นอน หลายคนจะพูดว่า ‘คุณจะตัดสินได้อย่างไรในวันเดียว มันเป็นไปไม่ได้’ แต่วันนั้นจะเป็นสัญญาณแรกของความพร้อมทางจิตใจของทีม ว่าพวกเขายังมีหัวใจของผู้ชนะต่อเนื่องหรือไม่”
ในวันอาทิตย์นี้ สลอต คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นอีกครั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โรเบิร์ตสัน พร้อมกลับมาลงสนามในแนวรับ ส่วน เคอร์ติส โจนส์ ก็กำลังเร่งทำผลงานเพื่อแย่งตำแหน่งในแดนกลาง ขณะที่ หลุยส์ ดิอาซ และ ดิโอโก้ โชต้า กำลังมีลุ้นได้ออกสตาร์ทในเกมรุก ส่วน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จะยังไม่ถูกพิจารณาลงสนามอีกครั้ง