นิตยสาร ฟอร์บส์ (Forbes) ได้เปิดเผยรายชื่อ 10 นักฟุตบอลที่มีรายได้สูงที่สุดในโลกประจำปีล่าสุด โดยสองตำนานลูกหนังอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงครองตำแหน่งผู้นำอย่างเหนียวแน่น
อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวยังมีชื่อของนักเตะจาก เรอัล มาดริด ถึง 3 ราย ได้แก่ คีเลียน เอ็มบัปเป้, วินิซิอุส จูเนียร์ และ จู๊ด เบลลิงแฮม ซึ่งทั้งหมดติดอยู่ในกลุ่ม 10 อันดับแรกของโลก
เอ็มบัปเป้ นำทัพ “ราชันชุดขาว”
ในบรรดานักเตะของ เรอัล มาดริด ชื่อของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ อยู่สูงที่สุด โดยรั้งอันดับที่ 4 ของโลก ด้วยรายได้รวมคาดการณ์ในฤดูกาล 2025-26 ที่ประมาณ 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ตามรายงานของ ฟอร์บส์ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้รับค่าเหนื่อยและโบนัสจากต้นสังกัดราว 60 ล้านดอลลาร์ ส่วนอีก 35 ล้านมาจากสัญญาสปอนเซอร์และการลงทุนส่วนตัวที่หลากหลาย
แม้ฤดูกาลแรกของเขาในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว จะจบลงอย่างน่าผิดหวัง หลังทีมตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่ดาวเตะวัย 26 ปีก็ยังคงเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีอิทธิพลและทำรายได้จากการตลาดมากที่สุดในโลก
พอร์ตธุรกิจของเขาประกอบด้วยการถือหุ้นในแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเยอรมัน Loewe, แพลตฟอร์มนาฬิการะดับหรู Wristcheck, สโมสรฟุตบอล ก็อง ในฝรั่งเศส รวมถึงสัญญากับแบรนด์ชั้นนำอย่าง ไนกี้ และ อูโบลต์
วินิซิอุส จูเนียร์ รั้งอันดับ 6
ส่วน วินิซิอุส จูเนียร์ ดาวเตะทีมชาติบราซิล อยู่ในอันดับที่ 6 โดยมีรายได้รวมราว 60 ล้านดอลลาร์ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งมาจากค่าเหนื่อยกับ เรอัล มาดริด และรายได้จากแบรนด์ส่วนตัวที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
แม้การเจรจาสัญญาใหม่กับต้นสังกัดจะชะงักในช่วงที่ผ่านมา แต่เขายังมีข้อตกลงร่วมกับแบรนด์ระดับโลกหลายราย เช่น ไนกี้, ฮูโก้ บอสส์ และ แว่นตา พราด้า อีกทั้งยังคงเป็นกำลังหลักของทีม โดยทำไปแล้วกว่า 110 ประตู และ 79 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 330 นัด
จู๊ด เบลลิงแฮม ประเดิมติดท็อป 10
ด้าน จู๊ด เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษวัย 22 ปี ติดอันดับ 9 ของโลก ด้วยรายได้รวมประมาณ 44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เขาเข้าสู่ทำเนียบนักเตะรายได้สูงสุดของโลก
หลังย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาด้วยค่าตัวเกือบ 140 ล้านดอลลาร์ เมื่อสองปีก่อน เขากลายเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของ เรอัล มาดริด และเพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทีมชาติอังกฤษไปครอง
นอกสนาม เขายังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ชื่อดังอย่าง อดิดาส และ ลูโคเซด ซึ่งช่วยผลักดันให้รายได้ของเขาพุ่งสูงจนติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของโลกในปีนี้