การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (FIFA Club World Cup) รูปแบบใหม่ที่กำลังจะอุบัติขึ้นในปี 2025 ไม่เพียงแต่จะนำมาซึ่งความตื่นเต้นในสนามเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในเรื่องกฎระเบียบการซื้อขายและลงทะเบียนนักเตะ
โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ออกมาอธิบายถึง “หน้าต่างการซื้อขายพิเศษ” และแนวทางการจัดการเรื่องสัญญาของนักเตะ เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด
ประเด็นสำคัญที่สร้างความสนใจคือกรณีของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งสัญญาของเขากับ ลิเวอร์พูล จะหมดลงในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ แต่ เรอัล มาดริด ต้นสังกัดใหม่ที่คาดการณ์กันไว้ ต้องการให้เขาลงสนามช่วยทีมในศึกสโมสรโลก ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายน หรือกรณีของ เควิน เดอ บรอยน์ ที่กำลังจะอำลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไม่มีค่าตัวในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนเช่นกัน และเจ้าตัวก็เคยเปรยว่าไม่น่าจะเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ถ้าหาก ซิตี้ ต้องการให้เขาลงเล่นล่ะ?
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้และทำให้การแข่งขันสโมสรโลกระดับเรือธงโฉมใหม่ดำเนินไปอย่างราบรื่นที่สุด ฟีฟ่าได้กำหนดกฎใหม่และแก้ไขกฎเดิมบางประการ ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นและสโมสรสามารถดำเนินการในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ในอดีต
ทำไมถึงมี “หน้าต่างการซื้อขายพิเศษ”?
ฟีฟ่าได้เปลี่ยนแปลงกฎปกติ โดยสร้าง “หน้าต่างการซื้อขายพิเศษ” ขึ้นมาเพื่อช่วยให้สโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันสโมสรโลกสามารถลงทะเบียนผู้เล่นใหม่ได้ทันเวลา โดยปกติแล้ว ฟีฟ่าอนุญาตให้แต่ละประเทศสมาชิกกำหนดวันสำหรับหน้าต่างการซื้อขายสองช่วงในแต่ละปี (ช่วงปิดฤดูกาลและช่วงกลางฤดูกาล) แต่ด้วยทัวร์นาเมนต์โฉมใหม่ที่กำลังจะมาถึง ฟีฟ่าได้เพิ่มกฎระเบียบใหม่ในกฎของสโมสรโลก อนุญาตให้มี “หน้าต่างการลงทะเบียนเพิ่มเติมกรณีพิเศษ” ระหว่างวันที่ 1-10 มิถุนายน 2025
อย่างไรก็ตาม กฎของฟีฟ่าระบุว่าประเทศสมาชิกสามารถอนุญาตให้มีการซื้อขายนักเตะได้เพียง 16 สัปดาห์ต่อปี (โดยทั่วไปในยุโรปคือ 4 สัปดาห์ในช่วงกลางฤดูกาล และ 12 สัปดาห์ในช่วงซัมเมอร์) เพื่อให้หน้าต่างซัมเมอร์ยังคงเปิดไปจนถึงวันที่ 1 กันยายนตามแผนเดิม ประเทศในยุโรปจะ ปิดหน้าต่างการซื้อขายเป็นเวลา 5 วัน และจะกลับมาเปิดอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน และเพื่อป้องกันความได้เปรียบเสียเปรียบที่ไม่เป็นธรรม หน้าต่างการซื้อขายพิเศษนี้จะเปิดสำหรับทุกสโมสร ไม่ใช่เฉพาะทีมที่เข้าร่วมสโมสรโลกเท่านั้น
จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้เล่นที่สัญญาหมดลงระหว่างการแข่งขันสโมสรโลก?
สัญญาผู้เล่นมาตรฐานในยุโรปโดยทั่วไปจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 มิถุนายน ซึ่งหมายความว่าสโมสรที่เข้าร่วมสโมสรโลกอาจพบว่ามีผู้เล่นที่กำลังจะหมดสัญญาและกลายเป็นฟรีเอเย่นต์ในระหว่างทัวร์นาเมนต์ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ฟีฟ่าได้เพิ่ม “หน้าต่างการลงทะเบียนกลางทัวร์นาเมนต์” ระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน ถึง 3 กรกฎาคม เพื่อให้สโมสรสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นที่หมดสัญญาออก และลงทะเบียนผู้เล่นใหม่ที่อาจจะเพิ่งย้ายมาร่วมทีมหลังหมดสัญญากับทีมอื่น หรือซื้อมาจากสโมสรอื่นหลังสิ้นสุดหน้าต่างการซื้อขายพิเศษช่วงต้นเดือนมิถุนายน
แต่หากสโมสรต้องการเพิ่มผู้เล่นที่กำลังจะหมดสัญญาให้ทันสำหรับการเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ พวกเขาจำเป็นต้องบรรลุข้อตกลงกับสโมสรปัจจุบันของผู้เล่นนั้นๆ ตัวอย่างเช่น เรอัล มาดริด ต้องการให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงเล่นตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์สโมสรโลก แต่เพื่อให้สมหวัง พวกเขาจำเป็นต้องตกลงการย้ายทีมแบบปกติกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว แทบจะแน่นอนว่าจะเป็นเพียงค่าธรรมเนียมเล็กน้อย เนื่องจากผู้เล่นไม่มีมูลค่าสำหรับลิเวอร์พูลแล้วหลังจบฤดูกาล (ลิเวอร์พูลไม่ได้เข้าร่วมสโมสรโลกครั้งแรกนี้) และการอนุญาตให้เขาย้ายออกไปก่อนกำหนดจะช่วยให้สโมสรจากเมอร์ซีย์ไซด์ประหยัดเงินเดือนของนักเตะได้พอสมควร แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้ มาดริดจะต้องรอจนกว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะกลายเป็นฟรีเอเย่นต์ในช่วงกลางทัวร์นาเมนต์ แม้ว่าเขาก็ยังสามารถถูกเพิ่มชื่อเข้าสู่ทีมสำหรับรอบน็อคเอาท์ได้ด้วยหน้าต่างการลงทะเบียนกลางทัวร์นาเมนต์ก็ตาม
สำหรับ เดอ บรอยน์ และผู้เล่นคนอื่นๆ ที่จะหมดสัญญากับทีมที่เข้าร่วมสโมสรโลกในระหว่างทัวร์นาเมนต์ ประเด็นจะแตกต่างออกไป หากดาวเตะชาวเบลเยียมหาสโมสรใหม่ได้ก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดลง แต่ตัดสินใจว่าต้องการลงเล่นให้ซิตี้จนจบการแข่งขัน เขาจำเป็นต้องบรรลุข้อตกลงกับสโมสรใหม่ของเขาเพื่อเซ็นสัญญาระยะสั้นเพิ่มเติมกับซิตี้ ซึ่งจะครอบคลุมช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม แต่ข้อตกลงใดๆ ก็ตามจะซับซ้อนขึ้นจากความเป็นไปได้ที่ผู้เล่นจะได้รับบาดเจ็บระหว่างการแข่งขัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ เดอ บรอยน์ เองก็ได้พูดถึงหลังเกมนัดชิงเอฟเอ คัพ
ผู้เล่นไม่สามารถลงเล่นให้กับมากกว่าหนึ่งสโมสรในการแข่งขันสโมสรโลกครั้งเดียวกันได้ ดังนั้น เดอ บรอยน์ จึงไม่สามารถเริ่มต้นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แล้วไปจบการแข่งขันด้วยการเล่นให้กับทีมอื่นได้ แม้ว่าเขาจะเซ็นสัญญากับผู้เข้าร่วมสโมสรโลกรายอื่นในระหว่างการแข่งขันก็ตาม
สโมสรยังสามารถเพิ่มผู้เล่นพิเศษได้อีกสองคนเข้าสู่ทีมในช่วงหน้าต่างการลงทะเบียนกลางทัวร์นาเมนต์ ซึ่งอาจทำให้ขนาดทีมเพิ่มจาก 35 เป็น 37 คน แต่สโมสรสามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้เล่นในทีมได้สูงสุดเพียง 6 คนตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ และเพื่อให้ผู้เล่นใหม่สามารถลงสนามในเกมสโมสรโลกได้ สโมสรใหม่ของเขาจะต้องลงทะเบียนและแจ้งให้ฟีฟ่าทราบอย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนการแข่งขัน
การเปลี่ยนแปลงกฎอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสโมสรโลก:
- การแข่งขันสโมสรโลกได้รับการยกเว้นจากกฎของฟีฟ่าที่ระบุว่าผู้เล่นไม่สามารถลงเล่นให้กับมากกว่าสองสโมสรในฤดูกาลเดียวได้ ดังนั้นผู้เล่นที่ลงเล่นให้สองสโมสรในฤดูกาลภายในประเทศแล้ว ก็ยังสามารถลงเล่นให้ทีมที่สามในทัวร์นาเมนต์นี้ได้
- ฟีฟ่าได้เปลี่ยนแปลงกฎที่บังคับให้สโมสรที่เข้าร่วมสโมสรโลกต้องปล่อยตัวผู้เล่นไปรับใช้ทีมชาติ กฎระเบียบของทัวร์นาเมนต์ระบุว่าผู้เข้าร่วมสโมสรโลกได้รับการยกเว้น แต่ยังคงต้องปล่อยตัวผู้เล่นสำหรับช่วงปฏิทินทีมชาติระหว่างวันที่ 2-10 มิถุนายน ซึ่งอยู่ก่อนเริ่มการแข่งขันทันที อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว โปรแกรมทีมชาติเดียวที่ชนกับการแข่งขันสโมสรโลกคือ คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ ซึ่งจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกาและแคนาดาเช่นกัน ดังนั้น “เพียงแค่” 16 ชาติจากอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และแคริบเบียนเท่านั้นที่อาจได้รับผลกระทบ
- สโมสรถูกขอให้ส่งรายชื่อผู้เล่นเบื้องต้นไม่เกิน 50 คน ซึ่งจะถูกคัดเลือกให้เหลือรายชื่อสุดท้าย 35 คนก่อนเริ่มการแข่งขัน
- ผู้รักษาประตูสามารถถูกแทนที่ด้วยผู้เล่นคนอื่นของสโมสรได้ตลอดเวลาในทัวร์นาเมนต์ หากมีหลักฐานการบาดเจ็บรุนแรงหรือการเจ็บป่วย
การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเหล่านี้ของฟีฟ่า มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลกรูปแบบใหม่ดำเนินไปอย่างราบรื่นและน่าตื่นเต้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มสีสันให้กับตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน