7msport

โชเซ่ มูรินโญ่ ตั้งเป้าพิสูจน์ตัวเองก่อนพา เบนฟิก้า ดวล นิวคาสเซิล

โชเซ่ มูรินโญ่ ตั้งเป้าพาทีมเจอ นิวคาสเซิล ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ขณะใกล้กลับมารับงานที่ เบนฟิก้า หลังจากถูก เฟเนร์บาห์เช่ ปลดออกจากตำแหน่ง มูรินโญ่ กำลังจะเข้ารับงานกับ เบนฟิก้า ซึ่งถือเป็นการกลับคืนบ้านเกิดที่หลายคนจับตามอง

กุนซือวัย 62 ปี เคยเริ่มต้นเส้นทางผู้จัดการทีมกับยอดทีมแห่งกรุงลิสบอนเมื่อปี 2000 แต่คุมทีมได้เพียงระยะสั้นก่อนจะลาออกเพราะปัญหาภายในสโมสร

ตอนนี้มีรายงานว่าเขากำลังจะหวนคืนโปรตุเกส และมีโอกาสสูงที่จะคุมทีมในเกมที่ เบนฟิก้า ต้องดวลกับ นิวคาสเซิล บนเวทียุโรป

โดยทั้งสองทีมมีกำหนดเจอกันที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ก ในเดือนหน้า ซึ่งดูเหมือนว่า มูรินโญ่ จะเดินทางมาพร้อมเป้าหมายพิสูจน์ฝีมืออีกครั้ง


มูรินโญ่ ต้องการพิสูจน์ว่าคนคิดผิด

หลายเสียงวิจารณ์ว่าแนวทางการทำทีมของ มูรินโญ่ เริ่มล้าสมัยและไม่ทันฟุตบอลยุคใหม่

เขาไม่ได้สัมผัสแชมป์ลีกมาตั้งแต่พา เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014/15 และนั่นทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความสามารถของเขาในระดับสูงสุด

แต่ตามรายงานของ เดลี่ เทเลกราฟ อดีตนายใหญ่ เรอัล มาดริด ต้องการพิสูจน์ว่าเขายังสามารถแข่งขันบนเวที แชมเปียนส์ลีก ได้ โดยครั้งล่าสุดที่เขาคุมทีมในรายการนี้ต้องย้อนกลับไปปี 2020

แม้รู้ตัวว่าถูกมองว่าเป็นกุนซือยุคเก่า แต่ มูรินโญ่ เชื่อว่าการสนับสนุนจากแฟนบอล เบนฟิก้า จะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เขาพลิกมุมมองของผู้คนได้


มูรินโญ่ เคยปฏิเสธโอกาสทำงานกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมชื่อดัง มูรินโญ่ เคยปฏิเสธงานสองครั้งจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด

ในช่วงแรกของอาชีพ เขาทำงานใกล้ชิดกับ เซอร์ บ็อบบี้ ร็อบสัน และได้รับข้อเสนอให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมจากตำนานกุนซือรายนี้

แต่ มูรินโญ่ ปฏิเสธโอกาสนั้น รวมถึงอีกครั้งเมื่อ ร็อบสัน บอกกับเขาว่าจะยกตำแหน่งผู้จัดการทีมให้หลังจากทำงานด้วยกันไม่กี่ปี

กุนซือชาวโปรตุเกสอธิบายว่า เขารู้จัก ร็อบสัน ดีและไม่เชื่อว่าคนที่ทุ่มเทกับเกมฟุตบอลอย่างเต็มที่เช่นนั้นจะก้าวถอยออกไป

เขาเล่าว่า
บ็อบบี้ เคยบอกว่ามันจะเป็นเพียงหนึ่งหรือสองปีเท่านั้น และหลังจากนั้นผมจะขึ้นมาเป็นเฮดโค้ช ส่วนเขาจะขยับไปทำงานบริหาร”

“แต่ผมรู้จักเขามานานและรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยืนดูอยู่บนอัฒจันทร์ในบทบาทผู้จัดการทั่วไป”

ดังนั้นเขาจึงเลือกปฏิเสธข้อเสนอ เพราะเชื่อว่าสักวันเวลาของตัวเองจะมาถึงแน่นอน