“ความเป็นหนึ่งเดียวคือความแข็งแกร่ง” – หนึ่งในข้อความบนผืนธงที่เดอะ ค็อปชูขึ้นอย่างภาคภูมิ และสำหรับ โคดี้ กัคโป แล้ว ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันนี้คือแหล่งพักพิงทางใจที่สำคัญที่สุด ในขณะที่ผู้เล่น, สตาฟฟ์ และแฟนบอลลิเวอร์พูลทุกคน กำลังร่วมกันเยียวยาหัวใจจากการสูญเสียเพื่อนร่วมทีมผู้เป็นที่รัก
หนึ่งเดือนผ่านไปนับตั้งแต่โศกนาฏกรรมที่พรากชีวิต ดิโอโก้ โชต้า และน้องชายของเขาไป และล่าสุด โคดี้ กัคโป ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจเป็นครั้งแรกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งของสโมสร
“ใช่ มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก” กัคโปกล่าว “พวกเราหลายคนยังอยู่ในช่วงพักร้อนตอนที่เหตุการณ์เกิดขึ้น เรากลับมารวมตัวกันในฐานะทีมและสโมสรโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราพยายามที่จะอยู่เคียงข้างครอบครัวของเขาให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”
“ครอบครัวของดิโอโก้หวังว่าจะรู้สึกได้ถึงความรักที่เรามีให้พวกเขา, ให้ดิโอโก้ และน้องชายของเขา คุณจะเห็นได้ว่าเราพยายามที่จะแสดงออกในฐานะสโมสรและทีม, แฟนบอลก็เช่นกัน, ทั้งเมือง, แฟนบอลทุกคน ในฐานะลิเวอร์พูล เราพยายามที่จะเป็นเหมือนครอบครัวจริงๆ”
กัคโปยังได้พูดถึงพิธีรำลึกที่น่าประทับใจในสนามดีพเดลว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ และเราสามารถเล่นเพลงของเขาต่อไปได้อีก 10 วัน มันสวยงามมาก และมันก็ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงแคแรคเตอร์ที่ยอดเยี่ยมของแฟนบอลของเรา”
การตัดสินใจที่จะติดตราสัญลักษณ์ “Forever 20” บนเสื้อแข่งตลอดฤดูกาลนี้ คือสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนเห็นพ้องต้องกัน “มันคือสิ่งเล็กน้อยที่สุดที่เราจะทำได้” กัคโปกล่าว “แน่นอนว่าเขาเป็นผู้เล่นที่โดดเด่น แต่ในฐานะคนคนหนึ่ง เขายอดเยี่ยมยิ่งกว่านั้นอีก เขาดีกับทุกคน ทุกคนรักเขา… เราต้องการที่จะจดจำว่าเขาเป็นใครสำหรับพวกเรา ไม่ใช่ในฐานะผู้เล่น เพราะในฐานะผู้เล่นเราสามารถดูไฮไลท์ในยูทูบได้ แต่ในฐานะคนคนหนึ่งที่เขาเป็น เขาจะอยู่ในความทรงจำของเราในฤดูกาลนี้ และจะอยู่ในความทรงจำของทุกคนในทีม, ในสโมสร และครอบครัวของเขาไปตลอดชีวิตของเรา เราจะไม่มีวันลืมเขา”
ท่ามกลางความโศกเศร้า ฟุตบอลก็ยังต้องเดินต่อไป และ กัคโป ก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมต่อยอดความสำเร็จจากฤดูกาลที่แล้ว “หลังจากฤดูกาลที่แล้ว เมื่อทุกปัจจัยเข้าข้างทีมของเราและการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเล็กน้อยของผม เราสามารถที่จะเก่งขึ้นกว่าที่เราเคยเป็นในฤดูกาลที่แล้วและประสบความสำเร็จให้มากยิ่งขึ้นไปอีก”