แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งผ่านพ้นฤดูกาลที่ยากลำบากที่สุดภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และคาดว่าในช่วงซัมเมอร์นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในส่วนของผู้เล่นและทีมงานโค้ช เพื่อเป้าหมายในการกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
แม้ว่าการจบอันดับสามในพรีเมียร์ลีกและการเป็นรองแชมป์เอฟเอ คัพ จะถูกมองว่าเป็นความผิดหวังเมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ กวาร์ดิโอล่า สร้างไว้ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ว่าจะมองในมุมไหน ปัญหาที่พวกเขาเผชิญในฤดูกาลล่าสุดจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข มีการประกาศเปลี่ยนแปลงในทีมงานโค้ชแล้ว และในสนาม หลังจากมีการเซ็นสัญญาผู้เล่นหลายคนในช่วงตลาดเดือนมกราคม ซิตี้จะนำผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพ ขณะเดียวกันก็ต้องเสียผู้เล่นบางคนออกไป
The Athletic จะพาไปเจาะลึกถึงสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกในช่วงซัมเมอร์นี้
ใครคือผู้กุมอำนาจตัดสินใจในตลาดรอบนี้?
ซัมเมอร์ปี 2025 ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำหรับซิตี้ในเรื่องนี้
ซิกิ เบกิริสไตน์ ซึ่งเคยเป็นผู้อำนวยการฟุตบอลที่บาร์เซโลนาระหว่างปี 2003-2010 และดำรงตำแหน่งเดียวกันที่ซิตี้ตั้งแต่ปี 2012 กำลังจะอำลาทีมหลังจบศึกสโมสรโลก ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 13 กรกฎาคม
เขาจะถูกแทนที่โดย ฮูโก้ เวียน่า ซึ่งคาดว่าจะอยู่กับ สปอร์ติ้ง ซีพี จนจบฤดูกาล แต่ได้อำลาทีมจากโปรตุเกสไปเมื่อสิ้นสุดตลาดเดือนมกราคม และเริ่มงานอย่างเป็นทางการที่ซิตี้ในเดือนเมษายน สโมสรพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้การส่งมอบงานเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม เบกิริสไตน์ จึงยังคงอยู่จนกว่าจะจบการแข่งขันที่สหรัฐอเมริกา โดยตลาดซื้อขายนักเตะช่วงสั้นๆ ก่อนทัวร์นาเมนต์นั้นถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการดำเนินการ
เฟร์ราน โซเรียโน่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ยังคงอยู่ในตำแหน่ง แต่ ริคคาร์โด้ บิกอน เป็นอีกหนึ่งเสียงใหม่ในทีมผู้บริหาร เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคฟุตบอลระดับโลกคนใหม่ของ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป เมื่อเดือนตุลาคม หลังจากทำงานเป็นผู้อำนวยการกีฬาที่ โบโลญญ่า สโมสรในอิตาลีมา 6 ปี
ตำแหน่งใดบ้างที่พวกเขาต้องการเสริมทัพ?
มีความเป็นไปได้ที่ เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูมือหนึ่งตลอด 8 ปีที่ผ่านมา อาจย้ายออกจากทีม ดังนั้นผู้เล่นหน้าใหม่ในตำแหน่งนี้อาจอยู่ในแผน สเตฟาน ออร์เตก้า เป็นตัวแทนที่ไว้ใจได้ แต่ผู้รักษาประตูชาวเยอรมันก็ยังไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของตนเองในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับตำแหน่งฟูลแบ็ก ซึ่ง กวาร์ดิโอล่า ต้องโยก มาเธอุส นูเนส และ นิโก้ โอไรลี่ย์ กองกลางมาเล่น เนื่องจากขาดตัวเลือกในช่วงท้ายฤดูกาล เราได้รายงานไปเมื่อวันจันทร์ว่า ซิตี้กำลังพยายามคว้าตัว รายัน ไอต์-นูรี จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ช่องว่างขนาดใหญ่ที่ เควิน เดอ บรอยน์ ยอดนักเตะของสโมสรทิ้งไว้ ซึ่งประกาศเมื่อเดือนเมษายนว่าจะอำลาซิตี้ในช่วงซัมเมอร์นี้เมื่อหมดสัญญา ก็จำเป็นต้องได้รับการเติมเต็ม ไม่น่าจะมีผู้เล่นคนเดียวที่สามารถทดแทนผลงานการสร้างสรรค์เกมของเขาได้ ดังนั้นการผสมผสานระหว่างผู้เล่นที่มีอยู่แล้วในสโมสรกับการเสริมทัพอีกเล็กน้อยดูเหมือนจะเป็นสูตรสำเร็จ
ผู้เล่นริมเส้นอีกคนก็มีแนวโน้มที่จะเข้ามาเสริมทัพเช่นกัน หลังจากที่ แจ็ค กรีลิช มีบทบาทน้อยลง ทำให้เหลือเพียง เฌเรมี่ โดกู และ ซาวิโอ เป็นปีกธรรมชาติ
อะไรคือสิ่งที่ผู้จัดการทีมให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก?
การลดขนาดทีม ในยุคที่ผู้จัดการทีมชั้นนำส่วนใหญ่เรียกร้องให้มีทีมที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรับมือกับโปรแกรมการแข่งขันที่หนักหน่วงในระดับสูงสุด กวาร์ดิโอล่า กลับต่อต้านความคิดนั้น “ผมไม่ต้องการทิ้งผู้เล่นห้าหรือหกคนไว้บนอัฒจันทร์ (ไม่ได้อยู่ในทีมวันแข่งขัน)” เขากล่าวหลังเกมชนะ บอร์นมัธ 3-1 เมื่อเดือนพฤษภาคม
“ผมไม่ต้องการแบบนั้น ผมจะลาออก ทำให้ทีมเล็กลง ผมจะอยู่ต่อ ผมไม่ต้องการมีผู้เล่น 24, 25, 26 คนเมื่อทุกคนฟิตสมบูรณ์ ถ้าผมมีผู้เล่นบาดเจ็บ (นั่นก็โชคร้าย) เรามีผู้เล่นบางคนจากอคาเดมี่ และเราก็ทำได้”
มีผู้เล่นคนใดเป็นเป้าหมายเฉพาะเจาะจงหรือไม่?
นอกจาก ไอต์-นูรี แล้ว ซิตี้ยังให้ความสนใจ ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส ของ เอซี มิลาน
นักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลมิดฟิลด์ยอดเยี่ยมแห่งปีของเซเรีย อา จะเข้ามาเติมเต็มตำแหน่งหมายเลข 8 ที่ซิตี้ขาดผู้เล่นอยู่ ไรน์เดอร์ส ซึ่งจะอายุครบ 27 ปีในเดือนกรกฎาคม กำลังเข้าสู่ช่วงพีคของอาชีพ เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมทีมในอนาคตอย่าง อิลคาย กุนโดกัน และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซึ่งจะมีอายุ 35 และ 31 ปีตามลำดับในช่วงต้นฤดูกาลหน้า
ซิตี้เคยสนใจ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เพลย์เมกเกอร์ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แต่ดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล จะเป็นจุดหมายปลายทางที่เขาต้องการมากกว่า พวกเขากำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการคว้าตัว รายัน แชร์กี้ ของ ลียง ขณะที่ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ ของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก็เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ซิตี้พิจารณาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในแดนกลาง
พวกเขาจะมองหาทางขายใครออกไปบ้าง?
เอแดร์ซอน เปิดกว้างสำหรับการย้ายไปเล่นใน ซาอุดี โปร ลีก ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เมื่อซัมเมอร์ที่แล้วหากมีสโมสรที่นั่นยื่นข้อเสนอตามที่ซิตี้ประเมินไว้ เขามีสัญญาเหลืออยู่เพียงปีเดียว
กรีลิช เป็นอีกคนที่อาจทำเงินก้อนโตได้ เขาเป็นส่วนเกินเกือบตลอดฤดูกาลที่แล้ว โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียง 7 นัดในพรีเมียร์ลีก ถูกทิ้งไว้บนม้านั่งสำรอง 12 ครั้ง และไม่มีชื่ออยู่ในทีมในวันสุดท้ายของฤดูกาลที่มีโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นเดิมพัน จอห์น สโตนส์ เพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษ ก็อาจย้ายออกไปหากมีสโมสรยื่นข้อเสนอที่เหมาะสมเข้ามา เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียง 13 นัดในทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และด้วยการมี รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, มานูเอล อคานจี, วิตอร์ เรส และ อับดูโคดิร คูซานอฟ ให้เลือก ซิตี้อาจมีกองหลังตัวกลางเกินความจำเป็นเมื่อทุกคนฟิตสมบูรณ์
จะมีใครย้ายออกไปแบบยืมตัวหรือไม่?
เคลาดิโอ เอเชเบร์รี่ อาจเป็นผู้เล่นที่ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป ใช้เครือข่ายของตนในการพัฒนา เขาเซ็นสัญญามาจาก ริเวอร์ เพลท ในเดือนมกราคม 2024 แต่ถูกยืมตัวกลับไปเพื่อให้เขาได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ที่อาร์เจนตินา
ในที่สุดเขาก็ได้ประเดิมสนามให้ซิตี้ในฐานะตัวสำรองในเกมนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ที่พ่ายแพ้เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเขาพลาดโอกาสสำคัญหลายครั้ง และอาจเป็นไปได้ว่านักเตะวัย 19 ปีรายนี้จำเป็นต้องลงเล่นมากขึ้นก่อนที่จะถูกคาดหวังให้ทำผลงานในพรีเมียร์ลีก
พวกเขาได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง?
ข้อตกลงยังคงต้องบรรลุระหว่างซิตี้และวูล์ฟแฮมป์ตันสำหรับ ไอต์-นูรี แต่ทุกฝ่ายคาดว่าการย้ายทีมจะเกิดขึ้น
ซิตี้ยังถูกปฏิเสธข้อเสนอแรกสำหรับ ไรน์เดอร์ส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทั้งสองสโมสรยังคงตกลงค่าตัวกันไม่ได้ ไรน์เดอร์ส เพิ่งเซ็นสัญญาใหม่เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งจะทำให้เขาอยู่กับมิลานไปจนถึงปี 2030 ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการได้ค่าตัวสูงสุดสำหรับหนึ่งในผู้เล่นดาวเด่นของทีม
คาดว่าซิตี้จะกลับมายื่นข้อเสนอที่ดีขึ้น
พวกเขามีงบประมาณเท่าใด และสถานะ PSR (กฎการเงิน) เป็นอย่างไร?
ซิตี้อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีการใช้จ่ายไป 183 ล้านปอนด์ (248 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนมกราคม พวกเขาน่าจะสามารถลงทุนจำนวนมากในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อปรับปรุงทีม
ในช่วงสามปีจนถึงสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว ซิตี้มีกำไรก่อนหักภาษีสะสม 195.9 ล้านปอนด์ จากการใช้การประมาณการและตัวเลขที่เปิดเผยในบัญชีร่วมกัน The Athletic’s BookKeeper คาดการณ์ว่าช่องว่าง PSR ของซิตี้ในการคำนวณฤดูกาลที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 324 ล้านปอนด์
ค่าธรรมเนียมสำหรับ นิโก้ กอนซาเลซ, โอมาร์ มาร์มูช, คูซานอฟ และ เรส จะถูกแบ่งจ่ายเป็นระยะเวลาสี่ปีครึ่ง และซิตี้ยังทำเงินก้อนโตจากการขาย ฮูเลียน อัลวาเรซ, ชูเอา คันเซโล่ และ เลียม ดีแลป