เวย์น รูนีย์ ตำนานกองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาตั้งคำถามอย่างเผ็ดร้อนถึงการตัดสินใจในตลาดซื้อขายนักเตะของสโมสรเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งผู้รักษาประตู หลังจากทีมรักต้องพ่ายแพ้ต่อคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอย่างขาดลอย 0-3 ในศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษชี้ว่า “ปีศาจแดง” ทำพลาดมหันต์ที่ไม่ได้คว้าตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า มาร่วมทีม ทั้งๆ ที่มีโอกาสในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก่อนที่นายทวารดีกรีแชมป์ยุโรปจะย้ายไปอยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” ด้วยค่าตัวเพียง 26 ล้านปอนด์ และประเดิมสนามได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเก็บคลีนชีตในเกมสำคัญทันที
ในทางตรงกันข้าม รูนีย์แสดงความกังวลต่อการที่ รูเบน อโมริม กุนซือของทีม ยังคงไว้วางใจให้ อัลทาย บายินเดียร์ ลงเฝ้าเสาต่อไป และยังไม่กล้าส่ง เซนเน่ ลัมเมนส์ นายทวารดาวรุ่งชาวเบลเยียมที่เพิ่งเซ็นสัญญาเข้ามาในวันสุดท้ายของตลาดด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ลงสนาม ซึ่งทำให้เขามองว่าดีลนี้อาจเป็นเพียง “การซื้อแก้เขิน” หรือ “Panic Buy” เท่านั้น
“นั่นเป็นเรื่องที่น่ากังวล… คุณไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นการซื้อแบบตื่นตระหนกหรือเปล่า” รูนีย์กล่าวผ่านพอดแคสต์ของ BBC “เอาตามตรงนะ ผมไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รักษาประตูคนใหม่มากนัก แต่ถ้าคุณซื้อผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามาแล้วเขายังไม่พร้อมที่จะลงเล่นในทันที นั่นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง”
“เห็นได้ชัดว่า ดอนนารุมม่า ย้ายเข้ามาแล้วเก็บคลีนชีตได้เลย นั่นคือความแตกต่างที่สำคัญ และนั่นคือสิ่งที่ผมเคยพูดไว้ตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาลว่ายูไนเต็ดควรจะไปคว้าตัวดอนนารุมม่ามา”
นอกจากนี้ รูนีย์ยังได้แสดงความผิดหวังต่อฟอร์มการเล่นโดยรวมของทีมภายใต้การคุมทีมของอโมริม โดยชี้ว่าเขายังมองไม่เห็นพัฒนาการหรือแนวทางที่ชัดเจนของทีมเลย
“ผมอยากจะสนับสนุนผู้จัดการทีมและนักเตะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันยากมากที่จะนั่งตรงนี้แล้วบอกว่าเรากำลังเห็นความก้าวหน้า เราไม่เห็นอะไรแบบนั้นเลย”
“มีภาพในช่วงท้ายเกมที่ผมเห็นแฟนบอลยูไนเต็ดทยอยเดินออกจากสนาม คุณได้ยินเสียงแฟนบอลซิตี้ร้องเพลงชื่ออโมริม แต่มันทรงพลังมากที่แฟนบอลยูไนเต็ดเลือกที่จะเดินออกไป พวกเขาผิดหวังอย่างมากกับสิ่งที่ได้เห็น มันยากที่จะมองเห็นว่ามันจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร”
ความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุดทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จมอยู่อันดับที่ 14 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่กดดัน รูเบน อโมริม และทีมบริหารชุดใหม่อย่างหนักหน่วง