ลิเวอร์พูล ชนะการแย่งตัว ฮูโก้ เอกิติเก้ ศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสจาก ไอน์ทรัคท์ แฟร้งก์เฟิร์ต และประกาศคว้าตัวเป็นที่เรียบร้อยในวันพุธ โดยจะเข้ารับใช้ทีมในช่วงพรีซีซั่นที่เอเชีย
เอกิติเก้ วัย 23 ปี เลือก แอนฟิลด์ เป็นจุดหมายต่อไป หลังมีข่าวว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างก็ให้ความสนใจในตัวเขาเช่นกัน
ค่าตัวเบื้องต้นอยู่ที่ 69 ล้านปอนด์ รวมโบนัสอาจเพิ่มขึ้นเป็น 79 ล้านปอนด์ ในสัญญา 6 ปี ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะซื้อเข้ารายที่แพงสุดอันดับสามในประวัติศาสตร์สโมสร (หลัง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ และ ดาร์วิน นูนเญซ)
แผนเสริมทัพ “หงส์แดง” ไม่หยุดแค่นี้
ดีลดังกล่าวต่อเนื่องจากการเซ็นสัญญาระดับสถิติกับ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ค่าโอนรวมสูงถึง 100–116 ล้านปอนด์ รวมทั้งผู้เล่นใหม่รายอื่นอย่าง เยเรมี่ ฟรีม์ปง, มิโลส เคอร์เคซ และ จอร์จี มามาร์ดาชวิลิ อีกด้วย เมื่อรวมทุกรายการ การใช้จ่ายของสโมสรฤดูร้อนนี้ทะลุเป้าเกิน 250–295 ล้านปอนด์
ทำไม เอกิติเก้ ถึงเป็นดีลสำคัญ
-
ฤดูกาลก่อนลงสนามให้แฟร้งก์เฟิร์ตทั้งสิ้น 48 นัด ทำไป 22 ประตูและ 12 แอสซิสต์
-
สตาร์วัย 23 เคยเริ่มต้นอาชีพที่ แร็งส์ และผ่านช่วงให้ยืมที่ ปารีส แซงต์–แชร์กแมง และ แฟร้งก์เฟิร์ต ก่อนเซ็นถาวรในปี 2024
-
มีความสูง 1.90 เมตร เล่นเป็นหอกเป้า แต่มีลูกเล่นแบ็คอัพ และความสามารถกดดันคู่แข่งแบบไม่ยอมแพ้
ผลกระทบต่อทีม
ดีลนี้นับเป็นการยืนยันว่าทีมไม่มีนโยบาย “ประหยัด” อีกต่อไป ภายใต้การนำของ อาร์เน่ สล็อท พวกเขาพร้อมแข่งขันบนทุกเวที ทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีก
-
นูนเญซ ตกเป็นข่าวย้ายออกหลังทำผลงานไม่เข้าตา
-
หลุยส์ ดิอาซ ก็ถูก บาเยิร์น มิวนิก ทาบทามเช่นกัน
-
ขณะที่มีแผนที่จะขาย จาเรลล์ ควนซาห์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์–อาร์โนลด์, เคโอห์มิน เคลเลเฮอร์ เพื่อนำเงินมาเสริมเกมรับเพิ่มเติม
บทสรุป
การคว้าตัว ฮูโก้ เอกิติเก้ ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าการลงทุนของ ลิเวอร์พูล ไม่หยุดแค่การรับแชมป์ลีก พวกเขากำลังตั้งใจจะสร้างทีมระดับแชมเปียนส์ลีกจริงจัง ซีซั่น 2025–26 นอกจากดีลนี้แล้ว ยังอยู่ระหว่างวางแผนเสริมทั้งเกมรับและกองกลางเพิ่มเติมต่อไป