บรูโน่ แฟร์นันเดส กัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์สูงถึง 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 371 ล้านบาท) ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากการปฏิเสธข้อเสนอมหาศาลจาก อัล-ฮิลาล
กองกลางวัย 30 ปีรายนี้เพิ่งปฏิเสธข้อเสนอสุดอู้ฟู่จากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นสัญญาปลอดภาษี 3 ปี มูลค่า 200 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9,280 ล้านบาท) อัล-ฮิลาล มีรายงานว่าพร้อมจ่ายค่าตัวให้ยูไนเต็ดสูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,640 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม แฟร์นันเดส ยืนยันว่าเขาต้องการอยู่ในยุโรปและเล่นใน “ระดับสูงสุด” และในขณะที่การตัดสินใจของเขาอาจทำให้เขาพลาดเงินหลายร้อยล้านปอนด์ บัญชีล่าสุดของบริษัทลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ของเขาแสดงให้เห็นว่าเขามีรายได้นอกสนามถึง 8 ล้านปอนด์
เอกสารที่ครอบคลุมฤดูกาล 2023/24 แสดงให้เห็นว่าแนวรุกรายนี้มีรายได้สะสม 8.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 385 ล้านบาท) ในบริษัท BF8 Sports Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่เขาใช้สำหรับรายได้นอกสนาม ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 97 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นั่นหมายความว่าเขามีรายได้ 175,000 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 8.1 ล้านบาท) นอกเหนือจากค่าเหนื่อยจากการเล่น
หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ดาวเตะชาวโปรตุเกสรายนี้เหลือเงินสุทธิ 7,849,371 ปอนด์ (ประมาณ 364 ล้านบาท) บริษัทดังกล่าวถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2020 และระบุว่าเป็น “กิจกรรมกีฬาอื่นๆ”
มีรายงานว่า แฟร์นันเดส ได้รับค่าเหนื่อย 12.5 ล้านปอนด์ต่อปี (ประมาณ 580 ล้านบาท) ที่ยูไนเต็ด โดยมีโบนัส ค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ และข้อตกลงสปอนเซอร์ที่มีกำไรงามกับแบรนด์ต่างๆ เช่น Adidas และ EA Sports ที่ทำให้เขาได้รับเงินเพิ่มอีกหลายล้าน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเขามีอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งทั้งในอังกฤษและโปรตุเกส แฟร์นันเดสมีสัญญาอยู่ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดจนถึงฤดูร้อนปี 2027 และผู้บริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีตัวเลือกที่จะขยายสัญญาออกไปอีก 12 เดือน
รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีม ได้แสดงความชัดเจนว่าเขาเชื่อว่ายูไนเต็ดต้องรั้งตัวแฟร์นันเดสไว้ หากพวกเขาต้องการประสบความสำเร็จ
เขาบอกว่า: “เขาเห็นว่าเรากำลังดำเนินการบางอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง และผมคิดว่านั่นคือทั้งหมดที่เขาต้องการจะอยู่ต่อ” “เขาปฏิเสธหลายสิ่งหลายอย่าง แต่มันแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการที่จะชนะ” “เขาอายุน้อยมาก เขาเก่งมาก เขาต้องอยู่ในลีกที่ดีที่สุดในโลก”