7msport

เบื้องหลังเทพนิยายแชมเปี้ยนส์ลีก: ไดอารี่ 1 วันของ ไครัต อัลมาตี้ ก่อนรับมือ เรอัล มาดริด

คืนนี้ (วันอังคารที่ 30 กันยายน 2025) สโมสร ไครัต อัลมาตี้ จากประเทศคาซัคสถาน จะลงสนามในเกมเหย้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และคู่แข่งของพวกเขาก็คือ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด เจ้าของสถิติแชมป์ 15 สมัย มันคือการพบกันระหว่าง เดวิด และ โกไลแอธ ในโลกฟุตบอลยุคใหม่ แต่สำหรับผู้คนในสโมสรเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงมาดริดเกือบ 4,000 ไมล์แห่งนี้ วันนี้มีความหมายว่าอย่างไร? นี่คือบันทึกเรื่องราวจากมุมมองของพวกเขา

มุมมองจากเจ้าหน้าที่สื่อ: “เด็กทุกคนที่นี่มีเสื้อมาดริดหรือบาร์ซ่า”

อาร์มาน ยาซีร์กูลอฟ เจ้าหน้าที่สื่อวัย 25 ปี คือผู้บันทึกวิดีโอปฏิกิริยาอันเป็นธรรมชาติของนักเตะในวันที่ทราบผลการจับสลาก “ผู้เล่นของเราไม่รู้ว่าผมกำลังอัดวิดีโออยู่ นั่นคืออารมณ์ที่แท้จริง บางคนถึงกับช็อกไปเลย” เขากล่าวถึงวินาทีที่ชื่อของ ไครัต อัลมาตี้ ถูกจับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มเดียวกับ เรอัล มาดริด

ความคลั่งไคล้ในเกมนี้มีมหาศาล ตั๋วเข้าชมกว่า 20,800 ใบถูกขายหมดเกลี้ยงในพริบตา และมีสื่อจากทั่วโลกร้องขอสิทธิ์ทำข่าวกว่า 500 ฉบับ สำหรับที่นั่งเพียง 35 ที่ “ในคาซัคสถาน ทุกๆ 5 คน จะมี 1 คนที่เป็นแฟนบอลเรอัล มาดริด หรือ บาร์เซโลน่า” เขากล่าว “เด็กทุกคนมีเสื้อของสองทีมนี้ พวกเขารู้จักแม้กระทั่งผู้รักษาประตูมือสามของเรอัล มาดริด”

มุมมองจากนักเตะ: “ที่คาซัคสถาน ทุกอย่างเป็นไปได้”

เอ็ดมิลสัน กองหน้าชาวบราซิลของทีม คือผู้จารึกประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้ทำประตูแรกของสโมสรในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ในเกมที่พ่ายต่อ สปอร์ติ้ง ลิสบอน 4-1 เขาเล่าว่าเมื่อ 3 ปีก่อน เขายังเล่นอยู่ในลีกระดับ 4 ของโปรตุเกสอยู่เลย “ตอนนี้ ผมต้องฝันอีกครั้งกับการเจอกับมาดริด” เขากล่าว

เขายอมรับว่าร่างกายต้องปรับตัวอย่างหนักกับสภาพอากาศที่แห้งของเมืองอัลมาตี้จนถึงขั้นเลือดกำเดาไหลในช่วงแรก แต่เขาก็หวังว่าปัจจัยเหล่านี้ รวมถึงความเหนื่อยล้าของมาดริดที่เพิ่งแพ้ในเกมดาร์บี้และต้องเดินทางไกลถึง 8 ชั่วโมง จะเป็นความได้เปรียบของทีม “3 ปีก่อน ไม่มีใครคิดหรอกว่าผมจะได้มาเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกเจอกับมาดริด แต่เรามีเวลา 90 นาที ที่นี่… ในคาซัคสถาน ทุกอย่างเป็นไปได้”

มุมมองจากคนดูแลสนาม: จากคอนเสิร์ต Backstreet Boys สู่สนาม ชปล.

วิคเตอร์ ยาโรเมนโก้ คนดูแลสนามชาวยูเครน มีภารกิจหนักในการฟื้นฟูสภาพสนาม อัลมาตี้ เซ็นทรัล สเตเดี้ยม ให้สมบูรณ์ที่สุด หลังเพิ่งผ่านการจัดคอนเสิร์ตของวง Backstreet Boys มาเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา แต่เขาก็มีประสบการณ์โชกโชน เพราะเขาคือหนึ่งในทีมงานที่เตรียมสนามในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2018 ที่กรุงเคียฟ ซึ่ง เรอัล มาดริด เอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ “ผมรู้ดีว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อ เรอัล มาดริด กำลังจะลงเล่นบนสนามของคุณ” เขากล่าว “แต่สำหรับเมืองนี้ ประเทศนี้ มันคือสถานการณ์ที่น่าทึ่งมาก”

มุมมองจากแฟนพันธุ์แท้สู่ทีมงาน: “เราก็คือทีมใหญ่เช่นกัน”

หากจะมีใครสักคนที่เข้าใจการเดินทางครั้งนี้ดีที่สุด คนนั้นคือ อาดิล คาริม จากอดีตกลุ่ม “อุลตร้าส์” แฟนบอลพันธุ์แท้ของสโมสร ปัจจุบันเขาคือผู้จัดการฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไครัต “เราไม่ได้มาที่นี่ด้วยโชคช่วย” เขากล่าวอย่างภาคภูมิใจ พร้อมชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของอคาเดมี่สโมสรที่มีนักเตะ homegrown อยู่ในทีมชุดนี้ถึง 12 คน

“เราก็คือทีมใหญ่เช่นกัน” เขากล่าวปิดท้าย “ตอนนี้เราคือ 1 ใน 36 สโมสรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในนั้น”