7msport

เบื้องหลังดีลสะท้านพรีเมียร์ลีก! แมนยู ปาดหน้าคว้า “เบนจามิน เซสโก้” ได้อย่างไร?

สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประกาศการเซ็นสัญญาครั้งสำคัญอย่างเป็นทางการ ด้วยการคว้าตัว เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าทีมชาติสโลวีเนียมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยสัญญายาว 5 ปี จนถึงปี 2030

แต่เบื้องหลังการประกาศอย่างเป็นทางการนี้ คือเรื่องราวการขับเคี่ยวที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยจุดพลิกผัน เริ่มต้นจากที่ทั้ง อาร์เซน่อล และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ต่างเป็นตัวเต็งในดีลนี้ โดยเฉพาะทัพ “สาลิกาดง” ที่ถึงขั้นยื่นข้อเสนอและได้รับการตอบรับจากไลป์ซิกไปแล้ว

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นหลังจากการประชุมลับของบอร์ดบริหารแมนฯ ยูไนเต็ด ที่นำโดย เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ บน “เรือตกปลา” ที่ประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งทำให้สโมสรเปลี่ยนเป้าหมายและเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อคว้าตัวเซสโก้ แม้จะเข้ามาในเกมช้ากว่า แต่ด้วยโปรเจกต์ที่ชัดเจนและการเจรจาที่ตรงจุด รวมถึงการที่ รูเบน อโมริม ได้พูดคุยกับเซสโก้โดยตรง ก็ทำให้สถานการณ์พลิกกลับอย่างสิ้นเชิง

สุดท้ายเป็นตัวนักเตะเองที่ตัดสินใจเลือกย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แม้ว่าจะไม่ได้ไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม

“ประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นพิเศษมาก แต่สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นจริงๆ คืออนาคต” เซสโก้กล่าว “เมื่อเราได้พูดคุยถึงโปรเจกต์ของทีม มันชัดเจนว่าทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับทีมที่จะเติบโตและกลับไปลุ้นแชมป์รายการใหญ่ๆ อีกครั้งในเร็วๆ นี้”

เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการฟุตบอลของสโมสร กล่าวเสริมว่า “เบนจามินมีการผสมผสานที่หาได้ยากระหว่างความเร็วอันน่าทึ่งและความสามารถในการเอาชนะกองหลังด้วยร่างกาย ทำให้เขาเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดในโลกฟุตบอล”

การมาถึงของเขาถือเป็นการเสริมทัพในแนวรุกรายที่สามของแมนฯ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้ ต่อจาก มาเตอุส คุนญ่า และ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ซึ่งทำให้ยอดใช้จ่ายรวมของสโมสรทะลุหลัก 200 ล้านปอนด์ไปแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าภายใต้การบริหารของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่จะพาทีมกลับสู่ความสำเร็จอีกครั้ง